เสี่ยไร่อ้อยเสพยาแล้วคลั่ง ตามหาคนรักเก่า ขับกระบะเข้าบ้าน นายก ทม.ปากแพรก นั่งในรถติดเครื่องเสพยาสบายใจ ตร.กาญจน์ปิดล้อม 7 ชม. ลูกสาวกล่อมไม่สำเร็จสุดท้ายตัดสินใจบุกชาร์จจับกุมไปดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากนายปราโมทย์ อุ่นจิตสกุล นายกเทศบาลเมืองปากแพรก ว่ามีชายวัยกลางคนขับรถยนต์กระบะเข้ามาจอดภายในบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 12 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งนำกำลังมาตรวจสอบโดยด่วน

ต่อมา พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.วศิน พลายศิริ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.กฤษกร อริยานนท์ รรท.รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรีจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวน ปจร.สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสายตรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน (กก.สส.ภ.จว.) กาญจนบุรีร่วม 30 นาย แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่เกรงว่าชายที่กำลังคลุ้มคลั่งอาจมีอาวุธปืน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ตำรวจจึงสวมเสื้อเกราะพร้อมนำโล่กันกระสุนและนำอาวุธปืนไปครบมือ

บุกรวบเสี่ยไร่อ้อยคลั่งยา ขับรถบุกบ้านนายก ทม.ปากแพรก คุมตัวดำเนินคดี

...

ไปถึงพบรถยนต์กระบะ มาสด้า 4 ประตู สีกรมท่า ติดฟิล์มสีดำทึบ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดติดเครื่องยนต์เอาไว้ โดยมีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ โดยชายคนดังกล่าวมีพฤติกรรมคล้ายคนคลุ้มคลั่ง ได้เร่งเครื่องยนต์ส่งเสียงดังเป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่พยายามตะโกนเรียกเพื่อเกลี้ยกล่อมชายคนดังกล่าวก็ไม่ยินยอม

จากการตรวจสอบทราบชื่อชายคนดังกล่าวคือนายถวัลย์ ฉ่ำเกตุ หรือ หวัน เสี่ยเจ้าของไร่อ้อย อายุ 40 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เมื่อทราบเจ้าหน้าที่จึงประสานไปหาแม่ ของนายถวัลย์ ให้เดินทางมาเกลี้ยกล่อมลูกชาย โดยแม่ของนายถวัลย์ ได้เดินทางมาพร้อมกับลูกสาวและน้องชายของนายถวัลย์ ซึ่งแม่ของนายถวัลย์ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นว่า ลูกชายมีอาวุธปืนอยู่ 3 กระบอก 2 กระบอกตนได้เก็บเอาไว้ที่ตู้เซฟ ส่วนอีก 1 กระบอกเป็นอาวุธปืนลูกซองยาว แต่ไม่ทราบว่าลูกชายนำติดตัวมาด้วยหรือไม่

บุกรวบเสี่ยไร่อ้อยคลั่งยา ขับรถบุกบ้านนายก ทม.ปากแพรก คุมตัวดำเนินคดี

เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลในเบื้องต้น จึงจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และตลอดเวลา แม่ รวมทั้งลูกสาวและน้องชาย ได้พยายามพูดจากล่อมนายถวิลย์ให้ออกมาจากรถ แต่นายถวิลย์ก็ไม่ยินยอมหรือพูดจาตอบโต้ เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมงจนกระทั่งตกดึก นายถวิลย์ ได้ดับสลับกับติดเครื่องรถยนต์เป็นระยะๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นนายถวิลย์ จุดไฟแช็กเพื่อเสพยาบ้าเป็นระยะๆ โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้พยายามอดทนรอให้นายถวัลย์ ออกมาจากรถด้วยตนเองแต่ก็ไม่เป็นผล

บุกรวบเสี่ยไร่อ้อยคลั่งยา ขับรถบุกบ้านนายก ทม.ปากแพรก คุมตัวดำเนินคดี

จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.20 น. ของวันนี้ (29 ธ.ค.) พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ที่เฝ้าติดตามเหตุการณ์จึงตัดสินใจให้ชุดปฏิบัติการร่วมนำกำลังเข้าชาร์จเพื่อจับกุม โดยการชาร์จจับกุมเป็นไปอย่างระทึกเนื่องจากนายถวัลย์นั้นขัดขืนอย่างคนบ้าคลั่ง โดยภายในมือได้กำอาวุธมีดเอาไว้ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงได้พยายามกดมือข้างดังกล่าวเอาไว้พร้อมกับพยายามนำเอากุญแจไปล็อกข้อมือ กว่าเจ้าหน้าที่จะคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ต้องใช้เวลานานกว่า 5 นาที หลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในรถยนต์ พบอาวุธมีดทรงตะขอ จำนวน 2 เล่ม มีดปลอกผลไม้ จำนวน 1 เล่ม ไฟแช็ก 1 อัน กระดาษฟอยล์ สำหรับเสพยาบ้า จำนวน 4 ชิ้น และหลอดดูด ยาบ้า จำนวน 1 อัน

บุกรวบเสี่ยไร่อ้อยคลั่งยา ขับรถบุกบ้านนายก ทม.ปากแพรก คุมตัวดำเนินคดี

...

เมื่อเคลียร์พื้นที่แล้วเสร็จเจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายถวัลย์ ไปตรวจหาสารเสพติดที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา ผลออกมาพบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีน อยู่ในร่างกาย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายถวัลย์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายใน 5 ข้อหา ประกอบด้วย 1.บุกรุกเคหสถานของผู้อื่นโดยมีอาวุธ 2.พาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร 3.ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ 4.เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ 5.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต

บุกรวบเสี่ยไร่อ้อยคลั่งยา ขับรถบุกบ้านนายก ทม.ปากแพรก คุมตัวดำเนินคดี

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายถวัลย์ ผู้ต้องหา เป็นเจ้าของไร่อ้อยกว่า 300 ไร่ ทำให้ฐานะทางบ้านค่อนข้างดี แต่นิสัยส่วนตัวเป็นเสพยาเสพติดประเภทยาบ้ามานานหลายปีจนกลายเป็นคนคลุ้มคลั่งและป่วยเป็นจิตเวช ที่ผ่านมาทางครอบครัวได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้นำตัวไปบำบัดที่สถานบำบัดผู้ติดยาเสพติดวัดไม้เสียบ จ.สุราษฎร์ธานี มาแล้ว 1 ครั้ง และนำไปรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ที่ให้บริการผู้ป่วยจิตเวช มาแล้ว 2 ครั้ง

...

ก่อนเกิดเหตุนั้นนายถวัลย์ ผู้ต้องหา ได้เสพยาบ้าเข้าไปจำนวนหลายเม็ด จนอาการคลุ้มคลั่งกลับมากำเริบ จากนั้นได้ขับรถยนต์ออกมาจากบ้าน เพื่อไปตามหาอดีตภรรยาที่เลิกรากันไปนานกว่า 10 ปีแล้ว โดยล่าสุดมีผู้พบเห็นนายถวัลย์ ขับรถยนต์วนเวียนไปมาที่หน้าบ้านของนายปราโมทย์ อุ่นจิตสกุล นายกเทศบาลเมืองปากแพรกมาแล้ว 3 รอบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่นายปราโมทย์ กำลังขับรถเข้าบ้านโดยมีภรรยามาเปิดประตูให้ หลังจากที่นายปราโมทย์ ขับรถไปจอดที่โรงจอดรถ แต่ยังไม่ได้ปิดประตู นายถวัลย์ ผู้ต้องหา จึงขับรถยนต์ติดตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว เมื่อนายปราโมทย์ และภรรยาเห็นจึงรีบเข้าบ้านแล้วล็อกประตูเอาไว้ จากนั้นจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือดังกล่าว.