ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน จำคุก 12 ปี “มาวดี” ลูกสาวอาม่าฮวย ลักทรัพย์มารดาที่ป่วย 24 ล้านบาท ไม่รอลงอาญา ส่วนอีกคดีทุนทรัพย์ 200 ล้าน นัดชี้ชะตา 14 พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ศาลอาญาพระโขนง ถนนสรรพาวุธ ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีอาญาหมายเลขดำ อ.1668/2563
ที่ นางฮวย ศรีวิรัตน์ อายุ 85 ปี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางมาวดี ศรีวิรัตน์ บุตรสาว อายุ 56 ปี จำเลย หลังเมื่อปี พ.ศ.2560 ได้ก่อเหตุทยอยถอนเงินในบัญชีกว่า 24 ล้านบาท และถ่ายโอนทรัพย์สินอื่นๆ ขณะที่ นางฮวย นอนพักฟื้นรักษาตัวด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบที่โรงพยาบาล ขอให้ศาลลงโทษเรื่องลักทรัพย์ 

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ให้จำคุก 6 กระทง กระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 12 ปี ไม่รอลงอาญา ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความนางฮวย กล่าวว่า วันนี้ศาลพิพากษาอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลย 12 ปีโดยไม่รอลงอาญา โดยศาลให้เหตุผลสรุปว่า จำเลยอาศัยความป่วยเจ็บของโจทก์ พาโจทก์ไปเบิกเงินยังธนาคารต่างๆ โดยที่โจทก์ไม่ยินยอม ทั้งการซื้อกองทุนในนามจำเลย ซื้อประกันชีวิตในนามจำเลย และนำเงินเข้าบัญชีในนามของจำเลยเอง การยักย้ายถ่ายโอนเงินของโจทก์เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ถือเป็นการทุจริต อีกทั้งผิดวิสัยของผู้เป็นบุตรผู้พึงกตัญญูรู้คุณมารดา แต่กลับลักเอาเงินของโจทก์ ซึ่งเป็นมารดาไปโดยทุจริต และจำเลยนำเงินบางส่วนไปลงทุนในกิจการรีสอร์ตของจำเลย ตามภาพถ่ายการก่อสร้างทั้งที่ตั้งรีสอร์ต และสำเนาโฉนดที่ดิน เอกสาร จ.44 พฤติการณ์จำเลยมีเจตนาเอาเงินของโจทก์ไปโดยทุจริตพิพากษายืน

...

นอกจากนี้ในส่วนคดีที่ศาลอาญาพระโขนง คดีหมายเลขดำที่ 3228/2562 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ นางฮวย เป็นโจทก์ร่วมกับ นางมาวดี กับพวกรวม 5 คน เป็นจำเลย ที่ถูกกล่าวหาว่าลักเงินไปจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด จำนวน 200 กว่าล้านบาทนั้น ศาลอาญาพระโขนง นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 14 พ.ย. 2565 เวลา 13.30 น.