ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ คุมตัวครูพละวัย 47 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนนักเรียนหญิงวัย 13 ปี ฝากขังต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมค้านประกันตัว หลังเข้ามอบตัวโดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยันไม่ได้วางยาเด็ก
ความคืบหน้ากรณีครูพละถูกแจ้งจับข่มขืนลูกศิษย์นักเรียนหญิงชั้น ม.1 วัย 13 ปี ล่าสุด ทางครูผู้ก่อเหตุรายนี้ คือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยตำรวจได้คุมตัวเข้าห้องสอบสวนเพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด ซึ่งจากการสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง ตำรวจได้แจ้ง 2 ข้อหา คือ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และพรากผู้เยาว์ แต่ตัวของครูเอ ได้ให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อกล่าวหา
จากนั้นตำรวจจึงได้คุมตัวครูเอไว้ที่โรงพัก ก่อนจะทำการยึดโทรศัพท์เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้คุมตัวไปที่บ้าน เพื่อไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้เข้าตรวจสอบนานกว่า 15 นาที ก่อนที่จะมีการนำเสื้อผ้าของครูรายนี้บางส่วนออกมาด้วย เพื่อนำไปตรวจสอบ และเป็นหลักฐานเพิ่มเติมในสำนวน
ครูเอ ผู้ต้องหา กล่าวก่อนจะถูกคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีการวางยาอย่างแน่นอน และไม่ขอพูดอะไร เนื่องจากได้ให้การกับตำรวจไปแล้ว
...
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้สอบถามญาติของครูเอ ที่เข้ามาให้กำลังใจระหว่างที่ตำรวจพามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้าน โดยญาติของผู้ต้องหาได้บอกว่า ครูเอสร้างแคมป์เก็บตัวให้กับนักเรียนตั้งแต่ปี 2551 ที่ผ่านมาสร้างนักเรียนจนประสบความสำเร็จมาแล้วหลายคนด้วยกัน และที่สำคัญไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย ดังนั้นเธอไม่เชื่อว่าหลานชายจะกล้าทำแบบนี้ แต่เมื่อเรื่องมันดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้ว จะผิดจะถูกก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม นอกจากมีการสอบปากคำผู้ต้องหา ทางสหวิชาชีพ รวมถึงสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็ได้เข้าสอบปากคำกับนักเรียนผู้เสียหายที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสอบปากคำตัวของน้องด้วย เพื่อมาประกอบสำนวนในการดำเนินคดี
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากนี้ก็คงต้องดูแลและเยียวยาสภาพจิตใจของน้องและครอบครัวต่อไป หากกังวลเรื่องความปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถรับตัวไปอยู่ด้วยได้ จนกว่าน้องจะมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น
ขณะที่ เรื่องของคดี พ.ต.อ.บัณฑิต สิงหาประชา ผู้กำกับการ สภ.กุฉินารายณ์ กล่าวว่า แม้ตัวของผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ในทางคดีก็ต้องดำเนินต่อไป ทางตำรวจก็ต้องหาพยานหลักฐานมาเพิ่มเติมตามกระบวนการ แต่ทั้งนี้ทางพนักสอบสวนได้พาตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมกำชับให้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เพราะกลัวว่าจะมายุ่งกับพยานหลักฐาน.