ผู้กำกับพระโขนง แจงข่าว สาวท้องบุกยิงผัว ยศ พ.ต.ท. เจ็บหน้าโรงพัก โต้ไม่เป็นความจริง ยันผู้ก่อเหตุ อายุ 66 แล้ว ไม่ได้ท้อง แถมลูกน้องไม่ได้มีเมีย 4 คน ชนวนหึงหวงเป็นเหตุ
จากกรณีสารวัตรสอบสวน สน.พระโขนง ถูกเมียน้อยอุ้มท้อง 4 เดือน บุกใช้อาวุธปืนยิง 1 นัดขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ใน สน.พระโขนง กระสุนเข้าที่หน้าท้องฝังใน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 21 ต่อเนื่อง 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.พระโขนง เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ และทำการสอบสวนแล้ว เจ้าตัวรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุ ส่วนสาเหตุเป็นเรื่องปัญหาครอบครัว แต่ไม่ขอลงรายละเอียดว่าเรื่องอะไร ส่วนปืนที่ผู้ก่อเหตุใช้ยิง เป็นปืนของผู้ก่อเหตุเอง
สำหรับประเด็นที่สารวัตรมีภรรยา 4 คน และผู้ก่อเหตุคือหนึ่งในภรรยาของสารวัตรนั้น ผู้กำกับยืนยันว่า ไม่ได้เป็นไปตามที่ข่าวเขียนรายงานไป ขณะที่มีการกล่าวหาว่าผู้ก่อเหตุเป็นเมียน้อยแล้วตั้งท้องแก่ ยืนยันอีกว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากฝ่ายหญิงผู้ก่อเหตุ อายุ 66 ปีแล้ว จากการสอบสวนหลังผู้ก่อเหตุที่มามอบตัวให้การว่าบันดาลโทสะ ปัญหามาจากในเรื่องครอบครัว ส่วนปืนที่ใช้เป็นของผู้ก่อเหตุเอง และอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนที่มีเสนอข่าวว่าท้องนั้นไม่จริง เนื่องจากคนอายุ 66 ปีแล้ว และกรณีมีภรรยา 4 คนนั้น ไม่ทราบว่าเอาข่าวมาจากไหน ยืนยันว่าไม่ใช่ ซึ่งเมื่อคืนมีการสอบสวนและทางผู้ก่อเหตุก็รับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจึงแจ้ง 3 ข้อหา, พยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต,ยิงอาวุธปืน ในที่สาธารณะ พ.ต.อ.วชิรากรณ์ กล่าว
...
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดช่วงเวลา 00.08 น.ของคืนวันที่ (22 ต.ค.) พ.ต.ท.กษิติ์ยศ แพรขาว อายุ 59 ปี ตำแหน่งสารวัตรเวรสอบสวน สน.พระโขนง ขณะยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้มี น.ส.อำไพศรี หรือสมศรี พยงค์ศรีทวี อายุ 66 ปี ภรรยา ที่อยู่กินด้วยกัน เป็นสามีภรรยากัน มาประมาณ 2 ปี และไม่มีบุตรร่วมกัน และไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส มาที่โรงพักเพื่อตามหา พ.ต.ท.กษิติ์ยศ (ผู้บาดเจ็บ) จากนั้นได้พากันไปพูดคุยบริเวณหน้าสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง กระทั่ง น.ส.อำไพศรี (ผู้ก่อเหตุ) นำอาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด 9 มม.ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย ออกมายิงใส่ผู้บาดเจ็บ จำนวน 1 นัด กระสุนเข้าที่แขนข้างขวา ทะลุเข้าหน้าท้องข้างขวากระสุนฝังใน ส่งผลให้ พ.ต.ท.กษิติ์ยศ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะพยายามหนีเข้าไปที่ห้องรับแจ้งความในโรงพัก โดยมีเพื่อนตำรวจ คือ ด.ต.ประยุทธ์ ผู้ช่วยร้อยเวร เข้ามาประคองร่างที่ถูกยิงนอนลงกับพื้น ก่อนที่ตำรวจจะเข้าเจรจากับคนร้าย ยอมจำนนวางอาวุธปืน ก่อนจะประสานอาสากู้ชีพนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ รักษาโดยด่วน หลังเกิดเหตุนางสาวอำไพศรีได้เข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุต่อพนักงานสอบสวน
จากการตรวจสอบอาวุธปืน ที่ใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนแบบ ออโตเมติก ขนาด 9 มม.ไม่มีทะเบียน พร้อมกระสุนปืนจำนวน 7 นัดและในแมกกาซีนอีก 1 นัด จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และให้การว่าสาเหตุมาจากการหึงหวง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชนโดยใช่เหตุ” เบื้องต้นมีรายงานว่าอาการบาดเจ็บของ พ.ต.ท.กษิติ์ยศ ขณะนี้ได้พ้นขีดอันตรายแล้ว