บิ๊กโจ๊ก นั่งฮ.ไปตรวจสำนวนฆาตกรรมหมู่ กราดยิงหนองบัวลำภู เร่งสอบปากคำนำไปเข้าสู่การเยียวยา แยกเป็น 3 สำนวน ได้แก่ สำนวนชันสูตรพลิกศพ ผู้ต้องหาฆ่าตัวตาย และผู้ต้องหาไปก่อเหตุ เชื่อมูลเหตุจูงใจมาจากความเครียดที่สะสมมานาน และมีปัญหาชีวิตหลายอย่าง 

เวลา 16.00 น. วันที่ 8 ต.ค. 2565 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เพื่อเร่งรัดการสอบปากคำของญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากเหตุกราดยิงในศูนย์เด็กเล็กอบต.อุทัยสวรรค์ ซึ่งพยานมีทั้งหมด 180 ปาก จะเร่งรัดให้สอบเสร็จภายใน 2 วัน และกำชับว่าต้องสอบครั้งเดียวจบ จะไม่สอบหลายครั้งเพราะจะทำให้ญาติหวนคิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำเพราะเป็นระเบียบ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ลงมาดูเรื่องการสอบสวนเป็นหลัก ซึ่งสำนวนการสอบสวนแบ่งเป็น 3 สำนวน คือ สำนวนชันสูตรพลิกศพ ผู้ต้องหาฆ่าตัวตาย และผู้ต้องหาไปก่อเหตุ โดยเน้นการบริการประชาชน จะสอบปากคำที่บ้านญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เพราะญาติอยู่ในช่วงการเศร้าโศกเสียใจ ได้มีการระดมพนักงานสอบสวนมาจากทุกจังหวัด เพราะต้องสอบสวน 180 ปาก ต้องสอบเสร็จภายใน 2 วัน นอกจากนี้ตำรวจยังต้องทำงานร่วมกับนักจิตวิทยาเพื่อเข้าไปดูแลสภาพจิตใจญาติ

...

ส่วนแนวทางการสอบสวน เรื่องของมูลเหตุจูงใจเกิดจากความเครียดเป็นหลัก เพราะการผ่าตรวจชันสูตรไม่มียาเสพติดในร่างกาย ประเด็นเกิดจากความเครียดสะสมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เรื่องครอบครัว เงินทอง และคดีต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ โดยขณะนี้ตำรวจให้น้ำหนักไปที่ความเครียดส่วนตัว ในเรื่องคดียาเสพติดที่ถูกจับกุม ยืนยันว่าไม่ได้ถูกกลั่นแกล้ง ส่วนประเด็นที่มีส่วนพัวพันกับเครือข่ายในพื้นที่ มองว่าเป็นการตัดตอนก่อนหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีเรื่องแบบนี้แน่นอน เป็นเรื่องส่วนตัวที่สะสมมาหลายเรื่องจึงลงมือก่อเหตุสลดขึ้น ทำให้การแสดงออกเป็นพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง ทั้งหมดจะมีการถอดบทเรียน สำหรับเรื่องอาวุธปืน การออกใบอนุญาต วันนี้ ตำรวจและฝ่ายปกครองจะดูให้หนักขึ้น และเรื่องยาเสพติดในชุมชน รวมทั้งตรวจสอบในองค์กรตำรวจด้วย หากพบโรงพักไหนยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็จะมีบทลงโทษต่างๆ ซึ่งรวมถึงผู้บังคับบัญชาในแต่ละหน่วยของสายงานตำรวจก็จะถูกภาคทัณฑ์ด้วย

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังพร้อมด้วยนายวิเชียร ขาวขำ นายกอบจ.อุดรธานี นายนฤมล โพดสาขา สมาชิกสภาจังหวัดอุดรฯ นำประชาชนจิตอาสาชาวปักษ์ใต้ในพื้นที่ภาคอีสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำกิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิตและมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทุกรายจากการกราดยิง ณ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โดยมีภาคประชาชน ข้าราชการ พ่อค้า องค์การบริหารส่วนจังหวัด เข้าร่วมจิตอาสาบริจาคโลหิต กว่า 50 คน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คนใต้ไม่ว่าจะทำมาหากินหรืออาศัยอยู่ในภาคใดของประเทศไทย ก็สามารถช่วยเหลือและจะไม่ทอดทิ้งคนไทยด้วยกัน พร้อมจะทำความดีทดแทนคุณแผ่นดิน ซึ่งในฐานะสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นให้กับครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรายละ 5,000 บาท จำนวน 47 ราย