โชเฟอร์แท็กซี่ เจอชายเมากร่าง ขับกระบะปาดหน้า-ท้าชก-ยิงปืนขู่ แถมในรถมีเสื้อคลุมตำรวจแขวนอยู่ ตกใจกลัว-เกรงไม่ปลอดภัย ประสาน "เพจสายไหมต้องรอด" พาเข้าแจ้งความ ด้านตำรวจรับแจ้งความแล้ว เตรียมตรวจสอบเป็นตำรวจริงหรือไม่-เรียกสอบดำเนินคดี
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 26 ก.ย. 65 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา นายธงชัย บานแย้ม อายุ 42 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้าสี เขียว-เหลือง ทะเบียน มค-9434 กรุงเทพมหานคร เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ชุมพล ดวงบรรเทา รอง สว.(สอบสวน) สน.โคกคราม หลังถูกชายสวมเสื้อยืดสีดำแขนสั้น กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ขับรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีขาว ทะเบียนป้ายแดงกรุงเทพมหานคร ขับปาดหน้าและชักอาวุธปืนออกมายิงข่มขู่ 1 นัด บริเวณหน้าร้านอาหารโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง (รามอินทรา) ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. โดยมีกลุ่มเพื่อนขับแท็กซี่กว่า 20 คน เดินทางมาให้กำลังใจ
โดย นายเอกภพ กล่าวว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมาภายหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายประสานมายังเพจสายไหมต้องรอด โดยผู้เสียหายและกลุ่มเพื่อนแท็กซี่รู้สึกหวาดกลัวเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ตนจึงนัดพามาแจ้งความต่อพนักงานสอบ สน.โคกคราม และประสานไปยัง พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ให้ช่วยตรวจสอบ
...
ด้าน นายธงชัย คนขับแท็กซี่ เล่าว่า ตนขับรถมาจากร้านอาหารสมพงศ์ ถนนประเสริฐมนูกิจ ได้สัญญาณไฟเขียวจึงเลี้ยวขวาเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม มุ่งหน้าถนนรามอินทราพอถึงช่วงยูเทิร์นกลับรถ รถกระบะคู่กรณีขับมาบนถนนประดิษฐ์มนูธรรมขาเข้า แล้วยูเทิร์นใต้สะพานด้วยความเร็วมุ่งหน้าถนนรามอินทราเหมือนกัน ก่อนพุ่งเข้ามาที่รถของตน ทำให้ตนเกิดความตกใจและหักหลบออกเลนซ้าย เห็นว่าคู่กรณีเบรกกะทันหัน จากนั้นคู่กรณีขับแซงซ้ายพร้อมกับเปิดกระจกตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายอยู่หลายครั้ง ตนจึงตอบกลับไปว่า "ผมมาทางตรง แต่คู่กรณีมายูเทิร์นต้องระวังผม" จึงเกิดการโต้เถียงกันสักพัก จากนั้นคู่กรณีจึงขับแซงขวาและเปิดกระจกท้าทายให้ตนจอดรถ
นายธงชัย กล่าวอีกว่า จากนั้นคู่กรณีได้ขับตามหลังมา พร้อมกับเปิดไฟหน้ากะพริบใส่ ตนจึงตัดสินใจบอกคู่กรณีให้จอดรถเคลียร์กัน ที่หน้าโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงรามอินทรา เมื่อถึงโรงเบียร์ฯ คู่กรณีขับปาดหน้ารถตนให้หยุด ตนจอดรถลงมา เดินไปหาชายคู่กรณีเปิดกระจกท้าชกตัวต่อตัว มีอาการเมาสุรา ใช้มืดตบเข้าไปที่ใบหน้า 1 ที เหลือบไปเห็นที่เบาะซ้าย มีเสื้อคลุมตำรวจเขียนระบุว่า สืบสวน สน.โคกครามแขวนอยู่ และมีขวดเหล้าวางอยู่ที่เบาะฝั่งซ้าย ตนตกใจเห็นคู่กรณีเป็นตำรวจ จึงค่อยๆ เดินถอยกลับมาที่รถ ทันใดนั้นคู่กรณีก็ลงจากรถตามมาพร้อมกับชักอาวุธปืนออกมาขึ้นลำ และจ่อปากกระบอกปืนมาที่ตน ตนพยายามบอกให้คู่กรณีใจเย็นๆ พร้อมกับกระโดดขึ้นรถเพื่อขับหนี แต่ถูกคู่กรณียิงปืนตามหลังมา 1 นัด
"เมื่อรู้ว่าคู่กรณีเป็นตำรวจท้องที่ ตนรู้สึกกลัวมากเพราะขับรถทำมาหากินแถวนี้ และอยู่ในท้องที่เขา ไม่กล้ามาแจ้งความคนเดียว ติดต่อไปขอความช่วยเหลือผ่านเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้พาเข้าแจ้งความ โดยตนมีคลิปจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดี ที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ ขณะคู่กรณีเดินถืออาวุธปืนลงมาก่อเหตุไว้ได้" ชายขับแท็กซี่ กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้รับเรื่องไว้เป็นคดีเพื่อตรวจสอบชายดังกล่าวว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ และจะเรียกตัวมาสอบสวนและพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.