แม่แจ้งความ ผอ.ร.ร.เอกชนดังภูเก็ตก่อเหตุจับหัว ด.ช.พัฒนาการช้าวัย 8 ขวบโขกผนังปูนบาดเจ็บ ด้าน ผอ.โรงเรียนฯ โต้กลับ ไม่ได้ทำเด็ก ป.2 อย่างที่กล่าวหา กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อชี้แจงผู้เกี่ยวข้อง
กรณีนางเฉลิมขวัญ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาวบ้านย่าน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เข้าพบ พ.ต.ท.สุชาติ หมีลำพอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ก.ย. 65 ผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวได้ก่อเหตุจับศีรษะ ด.ช.อายุ 8 ปี บุตรชายโขกกับผนังปูนของห้องผู้อำนวยการ โดยยังได้ใช้มือง้างและฉีกปากบุตรชาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บ มีอาการปวดศีรษะ จึงขอให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงและให้มีการดำเนินคดีกับผู้อำนวยการคนดังกล่าวให้ถึงที่สุดตามกฎหมาย
จากนั้นนางเฉลิมขวัญได้เข้าพบนายปฤษฎี ไชยภักดิ์ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.ภูเก็ต เพื่อร้องขอความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต หากผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าว ยังคงปฏิบัติหน้าที่ระหว่างการสอบสวน และดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต
...
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ 10 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนเทพอำนวยวิทยา ถ.เทพกระษัตรี อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบนายคมกฤษ หนุนใจ ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า จากข่าวที่สื่อมีการนำเสนอไปนั้น ตัวเองถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำความรุนแรงกับเด็กชายวัย 8 ปี ที่เป็นเด็กพิเศษนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง บางครั้งเขาก็จะมาเข้าห้อง ผอ.เป็นประจำ ก็ไม่ได้มีการว่ากล่าว ดุด่า ดังที่ผู้ปกครองกล่าวอ้าง แต่มีบางครั้งที่ผมอาจจะต้องให้เขาออกไป เพราะผมไม่ได้อยู่ในห้องเพราะในห้องมีคอมพิวเตอร์มีไฟฟ้า เกรงจะเกิดอันตรายบางทีให้ครูมารับกลับไปเรียนหนังสือชั้นบนชั้น 2
นายคมกฤษ กล่าวว่า วันที่เขาระบุว่าเป็นวันเกิดเหตุ เด็กเข้ามาหาจริง แต่ไม่ใช่เวลาที่เขาระบุแล้วเราก็มีกล้องวงจรปิดบันทึกชัดเจนว่า เขาเข้ามาเวลาไหนออกเวลาไหน ที่กล่าวหาว่าใช้แรงผลักเด็กชาย แค่เราจับเนื้อต้องตัวเขาก็ไม่ได้แล้ว เขาจะร้องก่อนหน้านี้เคยลองจับเขาครั้งหนึ่ง เขาก็ร้อง ทำให้รู้ว่าเด็กคนนี้เราจะใช้วิธีการแบบนี้ไม่ได้ แล้วบวกกับว่าผมเป็นผู้บริหารจะไปทำแบบนี้ได้อย่างไร ผมเป็นคริสเตียนผมไม่ทำแบบนี้ ที่กล่าวหาอีกข้อหนึ่งว่าไปฉีกปากเด็กทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานแล้วก็ทำให้ผมเสียชื่อเสียง รวมถึงโรงเรียนเองด้วย ซึ่งสิ่งที่ท่านได้กระทำและเผยแพร่ในสื่อต่างๆ อยากชี้แจงว่าอย่างน้อยให้ท่านเข้ามาพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงก่อนที่ท่านจะแชร์หรือทำเป็นข่าวไม่อย่างนั้นแล้วจะเกิดความเสียหายไม่ใช่ แค่โรงเรียนแต่อาจเป็นตัวท่านเองด้วย
ผอ.โรงเรียนเทพอำนวยวิทยา กล่าวต่อว่า ขอชี้แจงให้ทุกท่านรับทราบว่า สิ่งที่เขากล่าวหาผมไม่ได้เป็นความจริง ขณะนี้ ทางโรงเรียนพยายามรวบรวมหลักฐานทุกอย่าง ภาพจากกล้องทุกตัว ถ้าวันนั้นผมทำในสิ่งที่กล่าวหา คนที่ผ่านไปผ่านมาหรือแม้แต่แม่บ้าน เขาก็จะได้ยินเสียงร้องไห้แน่นอน แล้วเด็กออกเวลาไม่ถึง 15.00 น. ออกจากห้องนี้ไปโดยที่เด็กก็ร่าเริงตามปกติอยู่แล้ว ขณะที่เด็กกลับบ้านเด็กยังได้ไปซื้อน้ำดื่ม ก่อนที่จะกลับบ้าน ผู้ปกครองก็มารับที่ส่งเด็กกลับบ้านเขาก็บอกเด็กไม่มีอาการอะไรเป็นเด็กปกติ ไม่มีรอยแผลไม่มีอะไรทั้งนั้น แล้วผู้ปกครองก็รับขึ้นรถกลับบ้าน เหตุการณ์ก็มีประมาณนี้
นายคมกฤษ กล่าวอีกว่า ในส่วนนี้ก็ได้ปรึกษาผู้บริหารของมูลนิธิแล้ว รวมทั้งทนายความที่เป็นที่ปรึกษาของมูลนิธิเราก็ได้พูดคุยกันระดับหนึ่ง ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เราจะต้องรวบรวมเพื่อที่จะนำไปชี้แจงผู้ที่เกี่ยวข้องว่า เราไม่ได้กระทำตามที่ผู้ปกครองรายนี้ได้กล่าวหา โดยส่วนตัวไม่ได้มีอคติหรือโกรธเคืองกับผู้ปกครอง หรือกับคุณครูก็ดีที่ไปเป็นพยานฝั่งทางโน้น อาจจะมีบ้างในการทำงานระดับเป็นหัวหน้าที่จะคอยแนะนำลูกน้อง แต่ไม่ถึงขนาดที่จะต้องมาโกรธหรือเกลียด อันนี้ฝากถึงทั้งผู้ปกครองและผู้ที่ให้ข่าวบิดเบือน อยากให้ท่านได้คิดรอบคอบว่า สิ่งที่ตามมาก็จะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ทางโรงเรียนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานว่า เราจะสามารถฟ้องกลับได้ทางใดบ้าง
...
ผอ.โรงเรียนเทพอำนวยวิทยา กล่าวว่า ถ้าเด็กที่มีปัญหาหรือมีการเกิดอุบัติเหตุอะไรทุกอย่าง ผู้ปกครองจะต้องติดต่อมา ทางครูประจำชั้น ครูประจำชั้นก็จะแจ้งมาที่ ผอ. เพื่อที่จะรับทราบเรื่องราวต่างๆ แต่กรณีนี้หลังจากที่เกิดเหตุไปแล้วก็ไม่มีการพูดคุยอะไรเลยจนกระทั่งมาทราบอีกวันหนึ่งว่าเขาได้ไปแจ้งความในเวลาตี 2 ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริงทำไมเขาไม่แจ้งช่วงในเวลาที่เกิดเหตุหลังจากนั้น ซึ่งเขาจะเห็นบาดแผลร่องรอยอะไรอยู่แล้ว อันนี้คือเป็นสิ่งที่พวกเราเองก็สงสัยว่าทำไมเขาทำอย่างนั้น ฝากสื่อและก็ผู้เกี่ยวข้องอยากให้นำเสนอข้อเท็จจริงด้วย
ด้านนายไทวิวัฒน์ ปัจอังคาร ครูประจำชั้นของพี่ชายเด็กชายวัย 8 ปี กล่าวว่า ส่วนตัวพอจะได้สัมผัส ได้เจอน้องอยู่บ้าง ผมทำงานที่นี่มาประมาณ 1-2 ปี ก็ได้เจอน้อง เบื้องต้น น้องเป็นเด็กที่อัธยาศัยดีน่ารัก แต่อาจด้วยปัญหาบางอย่าง น้องไม่ค่อยปกติ ถามว่าส่วนใหญ่ที่ได้เจอน้องจะมาโรงเรียนค่อนข้างจะสายนิดนึง มาด้วยกัน 3 คนพี่น้องมีพี่ชายเรียน ป.4 แล้วก็น้องสาวเรียนอนุบาล ส่วนเด็กชายวัย 8 ปี จะเรียนอยู่ชั้น ป.2 ส่วนใหญ่มาถึง ตัวพี่ชายก็จะเข้าเรียนตามปกติ ส่วนน้องจะไม่ค่อยอยู่ห้องเรียนสักเท่าไร น้องชอบมานั่งอยู่โซฟาห้องธุรการ ไปห้อง ผอ.บ้าง แต่พักหลังๆ ไม่เห็นน้องเข้าห้องเรียนแล้ว.
...