สืบภาค 2 บุกทลายโกดังสินค้าทางออนไลน์ สั่งซื้อสมาร์ทโฟนส่งเป็นผงซักฟอก อึ้งเข้าค้นบ้านย่านสมุทรปราการ พบคลังเซ็กซ์ทอยหมื่นชิ้น เร่งขยายผลตัวการใหญ่ ชี้คนกลุ่มนี้ขายมือถือปลอมหาทุนทำธุรกิจมืด
จากกรณีเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 13 พ.ค. 2565 ด.ญ.เอ อายุ 14 ปี ผู้เสียหาย ได้สั่งซื้อโทรศัพท์ยี่ห้อ Xiaomi POCO X3 Pro ในราคา 6,579 บาท จากร้านค้าชื่อ Xiaomi store th ในแอปพลิเคชันชื่อดัง ต่อมาเมื่อสินค้ามาส่งปรากฏว่า ไม่ใช่สมาร์ทโฟนตามที่สั่ง แต่เป็น “ผงซักฟอก” จึงได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งต่อมา ชุดลาดตระเวนออนไลน์บก.สส.ภ.2 ได้สืบสวนพบว่าเคยมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกหลอกลวงในลักษณะนี้ จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 วิเคราะห์แผนประทุษกรรม (Criminal Profiling) ในลักษณะนี้ว่าเป็นแผนประทุษกรรมที่เป็นของกลุ่มคนร้ายเฉพาะกลุ่ม ซึ่งต่อมาได้สืบสวนร่วมกันจนพบว่ามีโกดังตั้งอยู่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.2 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ คดีนี้ ด.ญ.เอ เจ้าทุกข์ ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเพราะเก็บเงินไว้ซื้อโทรศัพท์เพื่อการศึกษา
...
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้มีความพร้อมในการรับมืออาชญากรรมที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วภายใต้ยุค 5G และให้กวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมที่ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ผบ.ตร. เร่งสั่งการให้พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.และผอ.ศปอส.ตร. (PCT) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดตำรวจ บก.สส.ภ.2 และ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดปฏิบัติการที่ 5 ได้ร่วมกันสืบทราบว่ามีคนร้ายหลอกขายผงซักฟอกมีเซฟเฮาส์ลับเพื่อใช้เป็นที่แพ็กสินค้าหลอกลวง และใช้เป็นที่เก็บพัสดุต่างๆ ทั้งหมดไว้ คือ บ้านย่าน ม.2 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ซึ่งต่อมาศาลได้อนุมัติให้ออกหมายค้น ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 405/2565 ลงวันที่ 7 ก.ค. และต่อมาวันที่ 8 ก.ค. เวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 และ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ได้ร่วมกันนำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้าน
ผลการตรวจค้น พบนายกันต์กวี อิ่นทะจักร์ หรือตี๋ อยู่ภายในบ้านและค้นพบสิ่งของ คอมพิวเตอร์ All in one จำนวน 1 เครื่อง พบข้อมูลรายการสินค้าที่หลอกลวงขายโทรศัพท์ ตรวจสอบเบื้องต้นพบเดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 รายการ อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย ตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ต่ำกว่า 10,000 ชิ้น เอกสารการสั่งซื้ออุปกรณ์เซ็กซ์ทอยนำเข้าจากประเทศจีน ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเอกสารการนำเข้าผ่านกรมศุลกากร กล่องพัสดุ บรรจุอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย เพื่อรอจัดส่ง 25 กล่อง, อุปกรณ์สำหรับห่อพัสดุหลายรายการ
ตำรวจจึงจับกุม นายกันต์กวี อิ่นทะจักร์ หรือตี๋ อายุ 23 ปี ชาวบ้าน ม.10 ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ โดยกล่าวหาว่า กระทำผิดตามมาตรา 287 ผู้ใด เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น, เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าวัตถุ หรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด”
...
จากการสืบสวนพบว่า นายซัน และ น.ส.เหมย สองสามีภรรยาที่เป็นตัวการในการหลอกลวงขายโทรศัพท์ แล้วนำส่งเป็นผงซักฟอกเพื่อรวบรวมเงินทุนจนพอ แล้วเปลี่ยนมาจำหน่ายอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยออนไลน์ โดยใช้โกดังแห่งนี้เป็นที่เก็บ และแพ็กสินค้า ส่วนผู้ถูกจับมีหน้าที่เฝ้าโกดังสินค้า และชุดสืบสวนจะได้ออกหมายจับดำเนินคดีสองผัวเมียในข้อหา "ร่วมกันพยายามฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ" โดยจะนำทุนที่ได้จากการฉ้อโกงหลอกขายโทรศัพท์มาเป็นทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์เซ็กซ์ทอยเหล่านี้ และประกาศขายทางแอปพลิเคชันชื่อดัง โดยตรวจพบพัสดุที่รอจัดส่งบางกล่องพบว่ามีการจัดส่งให้กับเด็กเยาวชนที่อายุเพียง 14 ปี อยู่ด้วย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า มิจฉาชีพพวกนี้มัก ไม่คิดทำมาหากิน ชอบรวยทางลัด หิวเงินจนไม่เหลือความดีในจิตใจ โกงแม้กระทั่งเด็ก เยาวชน โดยสร้างความเสียหายไปทั่วประเทศ คนพวกนี้มักเริ่มจากธุรกิจสีดำ และค่อยๆ ฟอกเป็นสีเทา สุดท้ายหวังฟอกเป็นสีขาวและมีหน้ามีตาในสังคม จะปล่อยไว้ไม่ได้เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง.
...