ตำรวจเชียงใหม่ คุมตัว 2 ชาวจีนสอบเครียด ถูกจับได้ขณะจะขึ้นเรือข้ามโขง หลังยิงเพื่อนคนจีนจนต้องโดดน้ำปิงหนีตาย พบปมขัดแย้งเรื่องธุรกิจ ยังไม่พบเรื่องมาเฟีย เรียกค่าไถ่ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
จากกรณีที่นายหวัง เสี่ยวเย่ อายุ 54 ปี ชาวจีน ถูกชาวจีนด้วยกันใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ก้นขวาด้านหลังได้รับบาดเจ็บ ก่อนอาศัยจังหวะวิ่งหนีกระโดดลงไปในแม่น้ำปิง ว่ายน้ำข้ามฝั่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในย่าน ถ.เชียงใหม่-ลำพูน ซอย 7 หมู่บ้านจินดานิเวศน์ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วานนี้ (5 ก.ค. 65)
ขณะที่ผู้ก่อเหตุทั้งสองได้ขับรถกระบะโตโยต้าสีขาว ทะเยียน ยฉ 8018 เชียงใหม่ หลบหนีไปยังจังหวัดเชียงราย ก่อนจะถูกชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ตามจับกุมได้ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ขณะกำลังจะลงเรือข้ามแม่น้ำโขงหลบหนีความผิดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่ง สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ สอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดี
...
ล่าสุดเช้าวันนี้ (6 ก.ค. 65) พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางไปที่ สภ.แม่ปิง เพื่อสอบสวนปากคำนายอวี่ หวัง และ นางสาวลี่ มิน อายุ 36 ปี สองผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม พร้อมกับประชุมทีมสืบสวนเพื่อขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้
พล.ต.ต.ธวัชชัย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าในวันเกิดเหตุเป็นการนัดพูดคุยเจรจาซื้อขายถ้วยชามโบราณ แต่นายหวังไม่ตกลงซื้อ ทำให้ทั้งสองไม่พอใจเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันและบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงนายหวังสองนัด กระสุนถูกก้นนายหวังหนึ่งนัดจนบาดเจ็บ และนายหวังได้วิ่งหนีออกมาจากบ้านกระโดดลงไปในแม่น้ำปิงว่ายน้ำหนีตาย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ทั้งสองให้การปฏิเสธไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายหวัง แต่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น / มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดที่ได้รับอนุญาต
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ขณะที่การสอบสวนยังไม่พบพฤติกรรมเป็นมาเฟียหรือเรียกค่าไถ่ตามที่เป็นข่าว แต่ทางตำรวจจะสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เนื่องจากคำให้การของทั้งสองฝ่ายยังขัดแย้งกันไปคนละทิศละทาง หากพบว่ามีข้อเท็จจริงที่เข้าข่ายเรียกค่าไถ่ หรือกรรโชกทรัพย์จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของเจ้าของบ้าน และ รถยนต์กระบะที่ใช้หลบหนีเป็นของพี่สาวเจ้าของบ้าน ซึ่งจะมีการสอบสวนด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ หากพบว่าร่วมกันกระทำความผิดหรือให้การช่วยเหลือในการกระทำผิดก็จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบว่านางสาวลี่มินเดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่พร้อมกับสามี แต่สามีได้กลับประเทศไปก่อนหน้านี้ ส่วนนางลี่มินพบว่าอาศัยอยู่ในประเทศไทยเกินวีซ่า หรือ โอเวอร์สเตย์ ได้ระยะหนึ่งแล้ว ส่วนนายอวี่หวัง อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล โดยระหว่างที่ทั้งสองอยู่ที่เชียงใหม่ ไม่ได้ทำงานอะไร ซึ่งจะต้องตรวจสอบดูด้วยว่ามีพฤติกรรมอะไรที่ผิดกฎหมายหรือไม่.
...