ปอศ.บุกรวบสาววัย 37 คาบ้านที่ชุมพร ตามหมายจับศาล หลังก่อเหตุตั้งวงแชร์ออนไลน์ หลอกตุ๋นเงิน พบมี 2-3 คนตกเป็นเหยื่อ มูลค่าความเสียหายเกือบ 9 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 65 พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการให้ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ต.ชณิตพงศ์ ศิริเวช สว.กก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ต.หญิงสุจิตรา ทองสกุล สว.กก.4 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม น.ส.กัลยา เกณเกตกรณ์ หรือ น.ส.พัทธ์ธีรา เกษศิริธัญวัชร์ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 834/2565 ลงวันที่ 27 เมษายน ข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ" และหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ จ.563/2559 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2559 ขัอหา "ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน" จับได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.เมือง จ.ชุมพร
สืบเนื่องจาก น.ส.พัทธ์ธีรา ได้ชักชวนให้กลุ่มผู้เสียหายเข้าร่วมกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ "ถุงทองชมรมคนกินดอก" โฆษณาเชิญชวนให้ร่วมลงทุนในวงแชร์ โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยและทองคำ ให้ผลตอบแทนสูง ส่งค่าแชร์มือละ 1,000 บาท ได้ผลตอบแทน 500 บาท ภายใน 7 วัน ผู้ต้องหาอ้างว่าจะนำเงินไปปล่อยเงินให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินอีกทีหนึ่ง เมื่อถึงกำหนดที่ผู้ต้องหาจะต้องคืนเงินทุนกลับไม่ยอมจ่ายเงินให้ อีกทั้งยังได้ชักชวนให้ผู้อื่นลงเล่นแชร์ และหาสมาชิกใหม่เข้าไปในกลุ่ม เพื่อหลอกลวงเหยื่อรายใหม่ และหมุนเวียนเช่นนี้ไปเรื่อยๆ กระทั่งปิดเฟซบุ๊กหนีไป กลุ่มผู้เสียหายจึงรวมตัวแจ้งความกับ กก.4 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดี ตรวจสอบพบมีสมาชิกเล่นแชร์กันทั้งหมด 200-300 คน ความเสียหายรวมเกือบ 9 ล้านบาท จนศาลได้ออกหมายจับไว้ ต่อมาชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาหนีมาอยู่ที่ จ.ชุมพร จึงจับกุมตัวเอาไว้ได้
...
จากการสอบสวน ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง กก.4 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.