ดีเอสไอ สนธิกำลังกรมส่งเสริมสหกรณ์ สน.นางเลิ้ง ตรวจค้นยึดอายัดทรัพย์สินในคดีฟอกเงินเกี่ยวกับการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด โดยนำทรัพย์สินไปตรวจสอบรวมกว่า 300 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2565 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พันตำรวจเอกสมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้ง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 6 จุด ได้แก่ สถานที่พักอาศัยในจังหวัดปทุมธานี จำนวน 2 จุด สถานประกอบกิจการภัตตาคารและร้านอาหารในจังหวัดปทุมธานี จำนวน 2 จุด สถานประกอบกิจการโรงแรมในจังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 2 จุด เพื่อแสวงหาหลักฐานและยึด/อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด เพื่อดำเนินคดีพิเศษ
...
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้รับคดีอาญาไว้ทำการสอบสวน กรณีมีการทุจริตภายในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด อันเป็นความผิดอาญาฐานลักทรัพย์นายจ้าง โดยพบว่ามีการทุจริตเงินสหกรณ์ฯ มากกว่า 600 ล้านบาท กระทำการหลายครั้งลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมจากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า มีการนำเงินที่ทุจริตออกจากสหกรณ์ไปซื้อทรัพย์สินประเภทที่ดินเพื่อประกอบกิจการรีสอร์ต บ้านพัก ภัตตาคาร ร้านอาหารหลายแห่ง รถยนต์หรู และทรัพย์สินอื่นอีกจำนวนมาก
โดยจากการตรวจสอบยังพบว่ามีการนำไปลงทุนซื้อหลักทรัพย์ หรือหน่วยลงทุนอื่นด้วย จึงเป็นพฤติการณ์ที่เข้าข่ายการเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สินเพื่อปกปิดแหล่งที่มา อันเป็นความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 237/2565 เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวน และยึด/อายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด โดยจะได้มีการสืบสวนสอบสวนและขยายผลเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป
...
ผลการตรวจค้นทั้ง 6 จุด พบทรัพย์สินประเภทที่ดินจำนวน 8 แปลง มีเนื้อที่ประมาณ 61 ไร่ รถยนต์เปอโยต์ รุ่น BIPPER จำนวน 1 คัน รถยนต์ฮุนได รุ่น H-1 จำนวน 1 คัน รถยนต์ปอร์เช่ รุ่นคาเยน จำนวน 1 คัน กระเป๋าแบรนด์เนมหลายใบ นาฬิกาหรูจำนวนหลายเรือน รวมทรัพย์สินฯ ที่ได้ทำการตรวจยึด/อายัดไว้มีมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ทำการขยายผลเพื่อติดตามทรัพย์สินต่อไป.