บิ๊กหิน-วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.นำทีมตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ บุกรีสอร์ตหรู รวบแก๊งโรแมนซ์สแกมชาวจีน จับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 24 ราย ปลอมโปรไฟล์เป็นหญิงสาวหน้าตาดี หลอกให้รักหลอกให้ร่วมลงทุน เน้นหลอกชาวญี่ปุ่น มีเหยื่อเสียหายจำนวนมาก ยึดของกลางเพียบโทรศัพท์มือถือ 224 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 20 เครื่อง และโน้ตบุ๊ก 10 เครื่อง
เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมือง พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตลอดจน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พล.ต.ต.วริศร์สิริ ลีละสิริ ผบก.ทท.2, พล.ต.ต.ศุภณัฏฐ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.ตม.5, แถลงข่าว กรณีการบุกจับกุม ทลายขบวนการหลอกลงทุนออนไลน์ จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน (HYBRID SCAM) กลางรีสอร์ตหรูในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 24 คน เป็นคนสัญชาติจีน 20 คน เป็นคนไทยในพื้นที่ 1 คน เป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน 3 คน
...
พร้อมของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์กับโน้ตบุ๊ก จำนวน 10 เครื่อง หน้าจอคอมพิวเตอร์ จำนวน 20 เครื่อง ซีพียูคอมพิวเตอร์ จำนวน 10 เครื่อง โทรศัพท์มือถือพร้อมซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือพร้อมใช้งาน จำนวน 244 เครื่อง ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 อัน แฟลชไดรฟ์ จำนวน 2 อัน
โดยก่อนหน้านี้ตำรวจได้รับรายงานว่ามีกลุ่มชาวต่างชาติได้รวมตัวเช่าที่พักในพื้นที่ โดยมีพฤติกรรมที่มีพิรุธผิดปกติจึงได้นำหมายศาลจังหวัดฝางเข้าทำการตรวจสอบ
จากการตรวจค้นพบอุปกรณ์ และเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารในการติดสื่อสาร โดยใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตโดยมีการสร้างใช้บัญชีชื่อปลอมในแอปพลิเคชันหาคู่ และแอปพลิเคชันไลน์ โดยเป็นชื่อที่สมมติขึ้นมาเองและใช้โปรไฟล์ของหญิงสาวที่มีหน้าตาดีที่หามาจากโซเชียล เพื่อสนทนากับเหยื่อหลอกลวงทั้งคนไทยและต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น โดยมีการหว่านล้อมหลอกให้เหยื่อตกหลุมรักและทำให้เหยื่อไว้วางใจ
ก่อนที่จะใช้อุบายหลอกให้เหยื่อร่วมลงทุนโดยให้มีการเปิดบัญชีในแอปพลิเคชัน metatrader เพื่อเข้าสู่กระบวนหลอกนำเงินมาหลอกทุน โดยจะมีคนที่สร้างข้อมูลบนแพลตฟอร์มขึ้นมาหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อว่ามีการเทรดเงินได้จริง หลังผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาในบัญชีก็จะตัดขาดการติดต่อและบล็อกทุกช่องทำให้เหยื่อไม่สามารถติดต่อได้ สูญเสียเงินที่ลงทุนไป
จากการสอบสวน ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเบื้องต้นได้รับค่าจ้างการทำงานเดือนละ 25,000-35,500 บาท และได้เช่าเหมาพักในรีสอร์ตที่เกิดเหตุ และได้ใช้ด้านหลังรีสอร์ตตั้งเป็นออฟฟิศ ทำงานตั้งแต่เวลา 09.00 -21.00 น. โดยทำงานจันทร์-ศุกร์ และเวลา 12.00-17.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์
เบื้องต้นแจ้งข้อหา สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเป็นซ่องโจร เพื่อร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น /ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมในส่วนของผู้ต้องหาชาวจีนว่าเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด
...
พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมือง ยังได้เปิดเผยอีกว่า ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการแฝงตัวของคนร้ายข้ามชาติ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้เข้ามาในพื้นที่อำเภอฝางเมื่อประมาณสองถึงสามเดือนที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังรวบรวมขยายผลข้อมูลและทำการขยายผลหาเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม ซึ่งเชื่อว่ายังมีอยู่ในพื้นที่ประเทศไทยอีก อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของขบวนการนี้ต่อไป พร้อมทั้งประสานกับกงสุลญี่ปุ่น เพื่อที่จะขอข้อมูลของเหยื่อที่ถูกผู้เสียหายหลอกลวงเพื่อรวบรวมข้อมูลมาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป และฝากเตือนไปยังประชาชน หากพบมีกลุ่มชาวต่างชาติรวมตัวอยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมากให้แจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการเข้าตรวจสอบ