ทลายแหล่งค้าสัตว์ป่าคุ้มครองรายใหญ่ในโคราช ผู้ต้องหาเปิดปากสารภาพ รับซื้อลูกเสือโคร่ง 2 ตัว จากนายพราน ลักลอบล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เตรียมส่งขายลูกค้าต่างประเทศ ได้ราคาสูงถึงตัวละ 4 แสนบาท

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี เจ้าหน้าที่ บก.ปทส.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยพล สินสอน รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผกก.3 บก.ปทส. ชุดจับกุมนำโดยทีมของ พ.ต.ท.ประทีป ชูศรี รอง ผกก. 3 บก.ปทส.บช.ก หัวหน้าชุดปฏิบัติการสายตรวจประจำจังหวัดนครราชสีมา, พ.ต.อ.สัญชัย พิสัยพันธ์ ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง), ด.ต.ศักดิ์นิกร ใบเพ็ง สถานีตำรวจภูธรโนนสูง, ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362, นายนุวรรจ ลีลาพตะ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ได้ร่วมกันบุกตรวจค้นบ้านเลขที่ 296 หมู่ 17 หมู่บ้านธารปราสาท ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 10 ไร่ หลังจากสืบทราบว่า บ้านหลังดังกล่าว ลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิด จึงทำการล่อซื้อและสนธิกำลังจับกุมดังกล่าว

...

ซึ่งพบกรงเลี้ยงสัตว์หลากหลายชนิด สภาพทรุดโทรม มีสัตว์เลี้ยงนานาชนิดจำนวนมาก ทั้งสัตว์ป่าคุ้มครอง และไม่คุ้มครอง มีนายเคียง พฤฒิจิระวงศ์ อายุ 67 ปี ชาว ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าของบ้าน โดยนายเคียงสารภาพว่า เปิดลักลอบค้าสัตว์ป่ามานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยเปิดเป็นแหล่งพักเลี้ยงและค้าสัตว์นานาชนิด จนกลายเป็นรายใหญ่ ซื้อสัตว์ป่ามาจากคนขายในพื้นที่เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร แล้วนำมาส่งให้ที่บ้าน เช่น นกกาฮัง 6 ตัว ซื้อมาตัวละ 6,000 บาท นกเงือกกรามช้าง 2 ตัว ซื้อมาตัวละ 8,000 บาท และลูกเสือโคร่ง 2 ตัว วัย 3 เดือน เพศผู้ชื่อ เจ้าโฟกัส และเพศเมีย ชื่อ เจ้าวีด้า ซื้อมาในราคาตัวละ 150,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีนกมาร์คอ เมียร์แคทนับร้อยตัว นกกระตั้ว จระเข้ นกแก้วหลายสายพันธุ์ รวมๆ แล้วมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน เพื่อส่งขาย

และจากการสอบสวนเพิ่มเติม ล่าสุดทราบว่า ลูกเสือโคร่ง 2 ตัว ได้ซื้อต่อมาจากนายพราน ที่ลักลอบล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในราคาตัวละ 150,000 บาท เตรียมส่งขายให้ลูกค้าต่างประเทศ ได้ราคาสูงถึงตัวละ 4 แสนบาท เป็นตัวเลขที่จูงใจอย่างมาก แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ ได้แจ้ง 2 ข้อหาใหญ่ ฐานกระทำความผิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ฐานร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผิดตามมาตรา 29 ข้อหาร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองและซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งได้เคลื่อนย้ายสัตว์ป่าทั้งหมดไปให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) กรมอุทยานฯ ตรวจสอบ และอนุบาลดูแลแล้ว.

...