แม่ครูปลา พร้อมทนายความ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ผอ.ยุติธรรม จ.สงขลา และ ผบช.ภ.9 ให้ดำเนินการสอบสวนใหม่ หลังมั่นใจมีพยานหลักฐานชี้ได้ว่า จากคดีเมื่อปี 2563 ครูปลาอาจถูกฆาตกรรมไม่ใช่ฆ่าตัวตาย
จากกรณี ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความกลุ่มทนายใจดี ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดพัทลุง เพื่อรับหนังสือร้องทุกข์และเรียกร้องความเป็นธรรมจากนางเสน่ห์ เทพขาว อายุ 55 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลปรางหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ว่าลูกสาวชื่อ นางสาวเมทินี เทพขาว อายุ 26 ปี เป็นครูสอนโรงเรียนวัดนาหมอบุญ ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ถนนพัฒนาการ บ้านนาหมอบุญ ตำบลนาหมอบุญ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เสียชีวิต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากการถูกฆาตกรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 จากการเข้าพบแพทย์ผ่าชันสูตรศพของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) และแจ้งผลชันสูตรอย่างละเอียดซึ่งพบมีบาดแผลฉกรรจ์และบาดแผลจากการถูกทรมานจำนวนหลายแห่งบนร่างกาย
โดยทางพนักงานสอบสวนได้ด่วนสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของลูกสาวว่า ได้เสียชีวิตจากการผูกคอฆ่าตัวตาย เหตุเพราะป่วยซึมเศร้าและอกหักจากความรัก ซึ่งสำนวนดังกล่าวมีความย้อนแย้งกับเรื่องราวทั้งหมด อีกทั้งยังมีการทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสงขลา ไม่สามารถเก็บหลักฐานได้เลย จึงได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ พร้อมพยานบุคคล ซึ่งมั่นใจว่าลูกสาวถูกฆาตกรรมแน่นอน ก่อนเดินทางข้ามจังหวัดจากพัทลุงมาอำเภอหาดใหญ่ เพื่อนำหลักฐานมอบให้แก่พนักงานสอบสวน ถึง 7 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งพนักงานสอบสวนพยายามบ่ายเบี่ยงอ้างติดคดีมีธุระ จนกระทั่งไม่สามารถติดต่อได้และพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวได้มีการย้ายไปรับตำแหน่งที่สถานีตำรวจต่างอำเภอ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2565 นางเสน่ห์ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ และ พ.ต.อ.ปพนวัฒน์ ขัตติยะวรานันท์ ทนายความกลุ่มทนายใจดี ได้เดินทางมาที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เผื่อยื่นหนังสือและนำหลักฐานต่างๆ ยื่นต่อ นายประพันธ์ เอี่ยมปลัด ผอ.ยุติธรรมจังหวัดสงขลา เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและให้มีการนำคดีการเสียชีวิตของ นางสาวเมทินี เทพขาว หรือ ครูปลา ขึ้นมาดำเนินการสอบสวนใหม่เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ซึ่งทางแม่ของครูปลายังไม่ปักใจเชื่อว่าครูปลาจะฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอตัวเอง หลังผลชันสูตรของ รพ.สงขลานครินทร์ ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
...
นายประพันธ์ เอี่ยมปลัด ผอ.ยุติธรรมจังหวัดสงขลา กล่าวว่า กรณีร้องขอความเป็นธรรมเรื่องการเสียชีวิตของครูปลา หลังได้รับเรื่องแล้วทางสำนักยุติธรรมจะเร่งดำเนินการส่งหนังสือไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะประสานกระทรวงยุติธรรม เพื่อที่จะดูแลตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือดำเนินการให้ความเป็นธรรม เบื้องต้นจะมีการช่วยเหลือเงินเยียวยาตรงนี้จำนวน 110,000 บาท หากพบว่าคดีนี้เข้าข่ายเป็นเหยื่ออาชญากรรมและหากมีอะไรติดขัดก็สามารถประสานมาได้ตลอดพร้อมยินดีช่วย
ต่อมาเวลา 13.00 น. นางสาวเสน่ห์ พร้อมด้วย ทนายความกลุ่มทนายใจดี เดินทางมาที่ตำรวจภูธรภาค 9 ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เผื่อนำหลักฐานต่างๆ และยื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้มีการนำคดีการเสียชีวิตของ นางสาวเมทินี เทพขาว หรือ ครูปลา ขึ้นมาดำเนินกระบวนการสอบสวนใหม่เพื่อสาเหตุการตายที่แท้จริง โดยมี พล.ต.ต.ธเรศ แก้วละเอียด ผบก.อก.ภ.9 เป็นตัวแทนรับหนังสือและหลักฐานต่างๆ
ซึ่งที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ลงความเห็นว่านางสาวเมทินี เทพขาว ฆ่าตัวตาย จึงทำให้แม่ของครูปลา อยากให้ทางคณะกรรมการสอบสวนคดีนี้อย่างเป็นธรรม ถ้าหากสุดท้ายแล้วเป็นการฆ่าตัวตายจริงก็ขอให้มีความโปร่งใสสามารถตอบผู้เสียหายได้ ซึ่งที่ผ่านมาพบบาดแผลที่ต้นคอเป็นรอยขนานซึ่งเราก็ทราบดีอยู่แล้วว่าการผูกคอฆ่าตายเชือกจะมีการล้ำขึ้นข้างบนและที่เราสงสัยในวันเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนไม่มีการเข้ามาสอบสวนในวันเกิดเหตุเลย ซึ่งในวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 13 ธันวาคม 2563 แต่เข้ามาสอบสวนในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ทำให้หลักฐานต่างๆ บ่งชี้ตัวคนร้ายนั้นหายไป และในวันเกิดเหตุยังมีการโอนเงินจากบัญชีผู้เสียชีวิตไปที่บัญชีนางสาวปิยะนุช (ลูกพี่ลูกน้อง) ซึ่งการโอนเงินนั้นเป็นการโอนเงินจากผู้เสียชีวิตเอง หรือ มีการบังคับโอน ก่อนที่นางเสน่ห์ เทพขาว แม่ของครูปลา มอบหนังสือให้กับ พล.ต.ต.ธเรศ แก้วละเอียด ผบก.อก.ภ.9 พร้อมนำเรียน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ทราบต่อไป
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสงขลาให้ความเป็นธรรมแก่คดีนี้ ให้นำการสอบสวนว่าสาเหตุการตายของครูปลา มาจากการฆ่าตัวตาย หรือ ฆาตกรรม ซึ่งจะต้องได้รับคำตอบที่ชัดเจนและไร้ข้อกังขาและทางครอบครัวจะไม่ติดใจถ้าหากผลชันสูตรหรือผลของคดีออกมาว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ต้องมีความโปร่งใสและมูลเหตุที่แท้จริง โดยทางคุณแม่ของครูปลามั่นใจว่าเป็นการฆาตกรรมนั้น ด้วยจากพยานหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าเป็นภาพถ่ายของศพที่ในวันเกิดเหตุ และก็ผลชันสูตรของแพทย์ที่เกิดจากขาดอากาศจากการถูกรัดคอ
แล้วที่คุณแม่มั่นใจอีกเรื่อง ในวันเกิดเหตุทำไมมีการโอนเงินต่อบุคคลอื่น ส่วนเหตุจูงใจเป็นเรื่องของความรักจริงหรือไม่ ส่วนมูลเหตุสุดท้ายทำไมคนที่ประสบความสำเร็จมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน พึ่งบรรจุข้าราชการครูในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และยังมีการซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดงซึ่งหน้าจะเป็นคนที่มีความสุข แต่กลับมาฆ่าตัวตายในบ้านของคนอื่น และอันนี้คือประเด็นที่สำคัญ พนักงานสอบสวนไม่ได้เข้ามาเก็บพยานหลักฐานในบ้านที่เกิดเหตุในวันนั้นเลย ซึ่งได้ล่วงเลยเวลาไปแล้วประมาณ 3 วัน จึงจะเข้ามาเก็บพยานหลักฐาน
...
นอกจากนี้ยังได้เชิญ พ.ต.อ.ปพนวัฒน์ ขัตติยะวรานันท์ ทนายความอีกคนซึ่งมีความเชี่ยวชาญชันสูตรพลิกศพและเคยได้ทำคดีกับการฆ่าตัวตายอย่างนี้ เช่น คดีของศักดิ์ ปากรอ ฆ่าแขวนคอ 5 ศพ เมื่อปี 2541 เพื่อร่วมสืบสวนและสะสางในคดีนี้ พร้อมได้เปิดเผยว่า ในแนวทางการสืบสวนสอบสวนเท่าที่ดูจากสภาพศพที่เคยชันสูตรพลิกศพมาหลายร้อยศพ เชื่อว่าคดีนี้ไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายและวันนี้ที่มาพบท่าน ผบช.ภ.9 นั้น เพื่อต้องการให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาในรูป คณะกรรมการสอบสวน คณะกรรมการสืบสวน ที่จะหาข้อเท็จจริงในคดีนี้ หากผลการสืบสวนสอบสวนแล้วเป็นการฆ่าตัวตายจริง มีเหตุผลชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสังคมและผู้เสียหายเราก็รับได้ แต่หากไม่เป็นการฆ่าตัวเองตายแต่เป็นการฆาตกรรมก็จะต้องดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดต่อไป
ส่วน แม่ของครูปลา ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันนี้ตนรู้สึกดีใจ ปลื้มใจที่ได้มาถึงตรงนี้ว่าตนและครูปลาจะได้รับความเป็นธรรม อยากจะบอกครูปลาว่า วันนี้ลูกจะได้รับความเป็นธรรมแล้วนะ แม่มาขอเป็นธรรมให้ลูกแล้ว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้ภาพนางสาวเมทินี เทพขาว หรือ ครูปลา ที่เสียชีวิตแล้วอยู่ในท่านอนยาวบนเบาะคนนั่งข้างของรถกระบะ ซึ่งทางนางเสน่ห์ พร้อมด้วยสามีและญาติๆ ต่างช่วยกันยกร่างของนางสาวเมทินี เทพขาว หรือ ครูปลา ออกจากโลงศพเพื่อนำร่างครูปลาไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของครูปลาที่แท้จริงว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด โดยวันดังกล่าวกำลังเตรียมจัดงานบำเพ็ญกุศลศพที่วัดปรางหมู่นอก แต่หลังจากเปิดฝาโลงเพื่อจะทำพิธีรดน้ำศพ โดยสภาพศพพบพิรุธบ่งชี้ว่าอาจถูกฆาตกรรม หลังนางสาวปิยะนุชลูกพี่ลูกน้องพยายามกันไม่ให้ไปชันสูตรซ้ำ โดยอ้างว่าได้ชันสูตรแล้วที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง ก่อนจะทราบผลชันสูตรความจริงจากทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) และเป็นสาเหตุเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาวตัวเองเพื่อหาผู้กระทำผิด.
...