ผบก.น.8 เผยผลสอบกลุ่มผู้ต้องสงสัย รุมทำร้ายสามีเหยื่อลุงปืนโหด เกิดจากการด่าทอเด็กชุมชนหลังวัดดาวคะนอง เป็นเหตุไม่พอใจ-ยกพวกรุมยำ จนหนีโดดเจ้าพระยาจมดับ ไม่เกี่ยวคดีฆ่าเมีย ยืนยันไม่ใช่การยกพวกแก้แค้น ชี้ตำรวจกำลังรวบรวมพยาน-หลักฐาน เร่งออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

จากกรณี นายกรีรติ หรือแอ๊ป ก๊กทรัพย์ อายุ 32 ปี สามีคนปัจจุบันของ น.ส.สุจิตรา หรือเก๋ เทพศิรินทร์รัตน์ อายุ 35 ปี ผู้เสียชีวิตที่ถูก นายเสมา ขจรพันธ์ อายุ 50 ปี ลุงของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ยิงเสียชีวิตเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายภายในวัดดาวคะนอง สถานที่ที่ตั้งศพภรรยา จนนาย นายกรีรติ ต้องตัดสินใจกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยา จมน้ำเสียชีวิตไปอีกศพ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 16 ก.พ.65 พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุพบว่า ก่อนหน้านี้ช่วงขณะที่กำลังเตรียมประกอบพิธีภายในงานศพ ได้มีประเด็นที่ นายกรีรติ (ผู้ตาย) ทะเลาะวิวาทกับเด็กในชุมชนหลังวัดดาวคะนอง เรื่องที่เด็กๆ เข้ามาจุดประทัดเล่นภายในบริเวณวัด จนเกิดเสียงรบกวนบริเวณงานศพ ทำให้ นายกรีรติ สามีคนปัจจุบันของ น.ส.สุจิตรา ออกไปด่าทอต่อว่าห้ามปราม จนเด็กกลุ่มดังกล่าวไม่พอใจ และนำเรื่องไปฟ้องกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ภายในชุมชนหลังบริเวณวัด อาจทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงยกพวกเข้ามาไล่ทำร้าย นายกรีรติ กับเพื่อนๆ ที่กำลังเซ่นไหว้ศพอยู่ในศาลา เมื่อจวนตัวจึงวิ่งหลบหนีและกระโดดลงไปซ่อนตัวในน้ำ ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบบาดแผลเบื้องต้นไม่พบร่องรอยใดๆ จากการถูกทำร้ายตามร่างกาย

...

"เบื้องต้นชุดสืบสวน สน.บุคคโล และ กก.สส.บก.น.8 ได้รุดลงไปในพื้นที่สอบปากคำพยาน และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วจำนวน 3-4 คน อยู่ระหว่างทำการตรวจสอบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ทำร้ายภรรยาของ นายกรีรติ จนตายในคดีก่อนหน้านี้หรือไม่ อย่างไรก็ตามจากการเค้นสอบปากคำเบื้องต้น ปรากฏว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุที่อาศัยอยู่ชุมชนหลังวัด และกลุ่มผู้ก่อเหตุกับ น.ส.สุจิตรา นั้น น่าจะเป็นคนละกลุ่มกัน ยืนยันเหตุดังกล่าวไม่ใช่การยกพวกมาแก้แค้นของกลุ่มที่ก่อเหตุยิงภรรยาของผู้เสียชีวิตแน่นอน เป็นเพียงเหตุซึ่งหน้าที่เกิดขึ้นจากตัวของผู้เสียชีวิตเอง โดยหลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการควบคุมตัว และออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวต่อไป" ผบก.น.8 กล่าว.