คนขับแท็กซี่ภูเก็ต คู่กรณี “ลูกชายหมอสุนิล” ปมเรียกค่าโดยสาร 600 ข้องใจหนัก โดนหาว่าโกง ลั่นผมเป็น local แท็กซี่ ไปข่มขู่หรือโกงตรงไหน ซัดคู่กรณีพยายามยั่วยุให้เกิดอารมณ์ ถึงขนาดตำรวจมายังไม่ยอมหยุด พวกผมหยุด คุณไม่หยุด

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Kevin Phol” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอกำลังถูกคนขับแท็กซี่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ปรี่เข้ามาขู่หาเรื่องจะทำร้ายร่างกาย หลังเรียกราคาค่าโดยสาร 600 บาท แล้วผู้เสียหายไม่ยอมให้ ก่อนท้าทายให้โทรหาตำรวจได้เลย โดยอ้างว่าเป็นพวกกัน ขณะเดียวกันเมื่อตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ กลับไม่มีการนำตัวคนขับแท็กซี่รายดังกล่าวไปทำการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยให้ผู้เสียหายนั้นเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เพียงฝ่ายเดียว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวเป็นลูกชายของ ดร.สุนิล พล หรือ “หมอสุนิล” เจ้าของ ดร.สุนิล อินเตอร์เนชั่นแนล เดนทอลคลินิก นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มกราคม 2565 นายจตุรงค์ แก้วกสิ รักษาการขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากมีการโพสต์คลิปดังกล่าวผ่านสังคมออนไลน์ จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องค่าโดยสารรถรับจ้างในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นวงกว้างนั้น เรื่องค่าโดยสารรถรับจ้าง ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ รถตู้ที่อยู่ในระบบของจังหวัดและของขนส่งจะมีราคาที่ถูกจัดวางไว้ โดยจังหวัดภูเก็ตได้มีประกาศ เรื่อง ค่าอัตราจ้างรถบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์บริการใน จ.ภูเก็ต ซึ่งประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 64 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผู้โดยสาร หรือมีการหลอกลวงนักท่องเที่ยว โดยให้ถืออัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารดังกล่าวเป็นอัตราขั้นสูงสุดสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน และสามารถต่อรองราคาได้ระหว่างผู้โดยสารกับคนขับ เช่น เส้นทางหาดกมลา-หาดป่าตอง อัตราค่าโดยสารจะอยู่ที่ 400 บาท ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถ้าผู้โดยสารไม่พึงพอใจ สามารถปฏิเสธได้ ส่วนกรณีคนขับรถมีการเรียกค่าโดยสารที่สูงเกินกว่าราคาที่ทางจังหวัดได้ประกาศใช้นั้น ทางขนส่งจังหวัดจะได้มีการเรียกตัวคนขับรถมาสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนเรื่องการข่มขู่ผู้โดยสารนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ถ้าผู้โดยสารแจ้งความดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

...

ด้าน พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเรียกทั้งสองฝ่ายมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นและหาข้อเท็จจริง ถ้าหากพบกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

แท็กซี่ภูเก็ตข้องใจ "ลูกชายหมอสุนิล" ไปโกงตอนไหน ลั่นผมหยุด แต่คุณไม่หยุด

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังคิวแท็กซี่ดังกล่าว ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับคาเฟ่ดังกล่าวที่นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ และได้พบกับ นายเจษฎา หรือบังหนุ่ม คาหะปะนะ อายุ 48 ปี ผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิปวันเกิดเหตุ ที่นักท่องเที่ยวมาใช้บริการในคาเฟ่แห่งหนึ่ง แล้วมีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาแท็กซี่ พร้อมกล่าวว่า

เรื่องมีอยู่ว่า พี่เขา 3 คน ออกมาจากสถานบริการ สถานบริการก็ปิดแล้ว เขาก็เดินผ่านหน้าคลินิก ผมก็ถามว่าแท็กซี่ เขาก็ไม่ตอบ เขาก็เดินผ่านหน้าผมไป หลังจากคิวแท็กซี่ก็จะมีตุ๊กๆ จอดอยู่ด้วย เขาก็ไปคุยอะไรกับตุ๊กๆ ผมก็ไม่ทราบคุยอะไรกัน ผมไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย เขาก็เดินกลับมา มาถามเองว่า ไปโรงแรมดินสอในป่าตองราคาเท่าไร เขาไม่ได้ถามผมเป็นคนแรก เขาถามเพื่อนร่วมงานผมอีกคนนึง เพื่อนร่วมงานผมก็ตอบว่าราคา 600 บาท แต่ตอนนั้นคิวจอดรถที่ให้บริการคือคิวผมเป็นคิว 1 เพื่อนก็เลยชี้คนนี้เป็นคนขับ ผมก็เลยเดินเข้าไปหา บอกเขาไปว่า ราคา 600 บาท ไม่มีการต่อรองเลยว่าลดได้ไหม คำแรกที่เขาพูดออกมาว่า “คุณโกง” ผมก็ถามว่า “โกง ผมโกงตรงไหนครับ”

เขาก็เอาแอปฯ Bolt ที่เขาโชว์มาให้ดูแค่ 168 บาทจากนี้ไปป่าตอง เขาว่าคุณโกง 600 บาทนี่คุณโกง ผมบอกว่าถ้าคุณพอใจที่จะไปกับแอปฯ คุณก็ไปในราคา 160 บาท แต่รถของผมเป็นรถ local แท็กซี่ ให้บริการในราคา 600 บาท ถ้าคุณไม่พอใจ คุณก็ไปใช้บริการกับคันที่คุณพอใจตามในคลิปที่ออก ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าของผม 600 บาท ผมเป็น local แท็กซี่ เป็นราคาที่วิ่งกันมาตั้งแต่สถานบริการตรงนี้เปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวเราก็ใช้ราคานี้มาตลอด

แท็กซี่ภูเก็ตข้องใจ "ลูกชายหมอสุนิล" ไปโกงตอนไหน ลั่นผมหยุด แต่คุณไม่หยุด

นายเจษฎา กล่าวอีกว่า คือมีอยู่ช่วงจังหวะนึงเหมือนกับมีการยั่วยุเกิดขึ้น ทางฝั่งเขายั่วยุพูดจาแบบไม่ยอมจบ หาว่าโกง อะไรอีกผมก็เดินเข้าไปถามด้วยเหตุผลด้วยอารมณ์ที่กำลังเดือดแล้ว ด้วยที่เขาไม่ยอมหยุดว่าโกงโกง ไอ้คำว่าโกงๆ เนี่ย ผมก็เข้าไปถามหาคำตอบเหตุผลว่าโกงคุณยังไง อะไรยังไง ในเมื่อคุณยังไม่ได้ใช้บริการรถผม เงินในกระเป๋าคุณยังไม่ได้ออกจากกระเป๋าคุณเข้ามากระเป๋าผม คุณยังไม่เหยียบเข้ามาในรถผม คุณเดินเข้ามาเฉยๆ คุณแค่ถามราคา แต่หาว่าผมโกง แต่ถ้าคุณจะหาราคาที่ถูกกว่า ตัวเลือกมีเยอะแยะ ซึ่งผมไม่ได้ไปบังคับขู่เข็ญคุณต้องมาขึ้นผมคันเดียว คุณเลือกใช้บริการได้เต็มที่ แล้วที่เขาอ้างว่าทางแอปฯ ไม่สามารถมารับตรงนี้ได้เป็นเพราะว่าทางแอปฯ ต้องปักหมุด ไม่ว่าลูกค้าคนไหนจากประเทศไหนที่ใช้บริการแอปฯ เขาจะปักหมุดให้ลูกค้าไปขึ้นที่บริเวณหน้าอินเตอร์คอน

...

ซึ่งความเป็นจริง บางครั้งก็มีมาจอดรับที่หน้าคาเฟ่เองก็มีเยอะแยะ แต่ด้วยความที่ว่าอาชีพเดียวกัน เขารู้ว่าตรงนี้มีรถที่คอยให้บริการอยู่แล้ว เขาเหมือนกับเกรงใจกัน หรืออะไรประมาณนี้ เขาไม่พยายามที่จะจอดหน้าสถานบริการ เขาจะเลี่ยงที่จะไปจอดผ่านไปนิดนึงที่จะให้ลูกค้าเดินไปหา เหตุการณ์มันก็แค่นี้ แต่เขายังไม่ยอมหยุด ยังมีการยั่วยุว่าคุณโกงอย่างนี้ไม่ได้ ข่มขู่บ้างอะไรบ้าง ผมก็ถามว่าข่มขู่คุณตรงไหนยังไง แตะตัวคุณตรงไหน อาฆาตมาดร้ายคุณตรงไหน ไม่มีเลยสักอย่าง

นายเจษฎา กล่าวว่า ทางแฟนเขากล่าวหาผมว่า ผมชูนิ้วกลางใส่ ในความเป็นจริงคือผมชี้นิ้วใส่หน้าเขา ส่วนผู้หญิงผมไม่หันมองเลยด้วยซ้ำ เพราะผมถือว่าเป็นเพศแม่ ผมคุยกับคุณผู้ชายอย่างเดียว ผมชี้หน้าคุณผู้ชายอย่างเดียวในคลิปชัดเจนเลยว่าคุณอย่าชี้หน้า ไม่มีมารยาทไปดูคลิปได้เลย ผมบอกผมจะชี้ ผมถามว่า ผมโกงคุณตรงไหน ผมข่มขู่คุณตรงไหน ผมต้องการคำตอบจากคุณคือ 2 ข้อนี้ แต่คุณมีการยั่วยุ พยายามยั่วยุให้ผมเกิดอารมณ์หลายครั้งหลายครา จนถึงขนาดว่าตำรวจมา คุณยังไม่หยุด ในขณะที่พวกผมหยุด แต่คุณไม่หยุด แล้วเหตุมันก็เป็นอย่างนี้ตามที่เล่าให้ฟัง

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา ได้ติดต่อผมให้เข้าไปให้ปากคำชี้แจงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เรื่องข้อกล่าวหา หรือข้อหา ยังไม่มีการแจ้งว่าผมโดนข้อหาอะไร แล้วก็ทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตก็โทรมาเพื่อจะให้ไปชี้แจงรายละเอียดว่ามันเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้เวลาประมาณ 09.30 น.