กรณีศาลอาญาพิพากษา คดีฆาตกรรม นพ.ศรุต โดยให้จำคุก 2 ผู้ต้องหาที่เป็นเพื่อนสนิทคนละ 10 ปี และร่วมชดใช้ 5 ล้านพร้อมดอกเบื้ย ด้านมารดาผู้ตายพอใจได้ความเป็นธรรม ส่วน 2 ผู้ต้องหาศาลให้ประกันตัว


จากกรณีเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ธ.ค.64 ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 1794/2563 คดีระหว่างพนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นพ.ปราโมทย์ มั่นเมือง จำเลยที่ 1 และ น.ส.จิตวิมล สุขสุวรรณ ปัจจุบันเป็นพนักงานราชการ จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และฝ่ายผู้เสียหายได้ร้องขอให้ใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา และเนื่องจากคดีนี้เกิดเหตุปี 2553 และอัยการยื่นฟ้องปี 2563 ประกอบกับมีสถานการณ์โควิด ศาลจึงเร่งรัดการสืบพยานต่อเนื่องให้แล้วเสร็จใน 1 ปี จำเลยได้ประกันตัวในชั้นพิจารณา

โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองว่าเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2553 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันโยน นพ.ศรุต ทวีรุจจนะ อายุ 28 ปี แพทย์จุฬาฯ กำลังศึกษาต่อด้านพยาธิวิทยา จากชั้น 4 ซึ่งมีความสูงประมาณ 9.76 เมตรของอาคารไดรฟ์อินอพาร์ทเม้นท์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ทำให้ร่างของนายแพทย์ศรุต กระทบพื้นคอนกรีตจนถึงแก่ความตาย คดีนี้ โจทก์นำพยานหลักฐานเช่นพยานบุคคล พยานแวดล้อม พยานทางวิทยาศาสตร์ และขอให้ผู้พิพากษาออกไปสืบพยานนอกศาลหรือเดินเผชิญสืบที่เกิดเหตุ ที่คอนโดมิเนียม เพื่อดูระเบียง ลูกกรง ลานซีเมนต์ที่ศพ ฝ่ายจำเลยได้นำพยานฝ่ายผู้ก่อสร้างอาคารคอนโดฯ มาสืบหักล้างเต็มที่

มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองฆ่าผู้ตายหรือไม่ ศาลได้พิเคราะห์พยาน หลักฐาน ทั้งพยานบุคคลและพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เห็นว่า วันเกิดเหตุ นพ.ศรุตไปดื่มกับจำเลยที่ 1 กับ 2 ที่ร้านอาหารย่านรัชดา ห้วยขวาง กทม. ออกมาด้วยอาการมึนเมาจนจำเลยที่ 1 ต้องพยุงขึ้นรถแท็กซี่ เมื่อลงรถแท็กซี่ มาถึงอาคารไดร์ฟอิน อพาร์ทเม้นท์ แขวงคลองจั่น บางกะปิ กทม. นพ.ศรุตได้ล้มลงบนทางเดินจนมีภาพปรากฏในกล้องวงจรปิด และพยุงมายังห้องพักของจำเลยทั้งสอง จากนั้นมีคนเห็นผู้ตายได้ร่วงลงมาชั้น 4 ของอาคารเสียชีวิต

...

ต่อมา แพทย์ชันสูตรศพ นพ.ศรุต พบว่าที่ร่างกาย มีบาดแผลหลายจุดที่ไม่เกี่ยวกับการตกจากที่สูง เช่น รอยช้ำบริเวณด้านในแขน บาดแผลถลอกที่ช่วงบั้นเอว ต่อมานักวิชาการพยานทางวิทยาศาสตร์และพยานผู้เชี่ยวชาญเบิกความประกอบเอกสาร ฝ่ายโจทก์ ได้ทำการทดลองนำหุ่นน้ำหนักเท่ากับผู้ตาย และใช้คนสองคนยกขึ้นทำให้บริเวณด้านหลังของหุ่นที่ถูกอุ้มไปพาดที่กั้นระเบียงคอนกรีต ทำให้เป็นรอยครูด ก่อนหุ่นจะร่วงแบบศีรษะลงพื้น ตามด้วยเท้า หัวชี้ออกนอก ห่างจากอาคารประมาณ 3 เมตร สอดคล้องกับสถานที่เกิดเหตุและศพที่ถูกพบ

จากนั้นได้มีการนำสารประกอบจากระเบียงคอนกรีต และเนื้อด้านหลังของผู้ตายมาพิสูจน์พบว่าผลตรงกัน รวมทั้งจำเลยทั้งสองยอมรับว่า ในขณะเกิดเหตุมีเพียงแค่จำเลยทั้งสองกับผู้ตายอยู่ในห้องเท่านั้น และก่อนเกิดเหตุ นพ.ศรุตได้โทร.หาภรรยาเพื่อถามถึงการซื้อกับข้าวในตอนเช้า จึงดูไม่มีเหตุสมควรว่า นพ.ศรุต คิดสั้นฆ่าตัวตายตามที่จำเลยทั้งสองกล่าวอ้าง อีกทั้งมีพยานยืนยันได้ว่า ผู้ตายกับจำเลยที่ 2 เคยคบหาเป็นคนรักกัน แต่ขณะเกิดเหตุจำเลย 1-2 กำลังคบหาเป็นคนรักกันแล้ว อาจจะเกิดความไม่พอใจ หึงหวง

ด้านจำเลยทั้งสองหักล้างว่า วันเกิดเหตุไปร่วมดื่มกินกันมาจนเมาและพามาที่ห้อง ผู้ตายมีอาการเมาไปยืนระเบียงแล้วพลัดตกไป เมื่อตกไปโดนสายไฟร่างจึงกระทบไปมา จนเกิดบาดแผล ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ของพวกจำเลยเอง ไม่สามารถหักล้างกับพยานหลักฐานของโจทก์ได้ รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1-2 ได้ช่วยกันอุ้มร่างของผู้ตายให้ตกลงมาจากอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุจึงมีความผิดจริงตามฟ้อง

ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 2 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตาม ม.288 ไม่ใช่กรณีที่ผู้ตายฆ่าตัวตายโดยมีสาเหตุจากเรื่องชู้สาว จำคุกจำเลยทั้ง 2 คนละ 15 ปี แต่จำเลยทั้ง 2 ให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.78 คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 10 ปี และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันที่ฟ้อง (7 ก.ย.63) ให้กับมารดาผู้ตาย คำขออื่นให้ยก

ด้านน้องชายของผู้ตาย กล่าวว่า ขอขอบคุณศาลที่เมตตาและให้ความยุติธรรมให้กับครอบครัวของเราที่สูญเสียมาเป็น 10 ปี ที่ทุกๆ วันผ่านไปด้วยความลำบาก ส่วนเรื่องการยื่นอุทธรณ์คดีต้องขอกลับไปปรึกษาครอบครัว และทีมทนายอีกครั้งก่อน เพราะตอนนี้พวกเราก็เหนื่อยล้ามามากแล้ว แต่วันนี้ก็พอใจกับคำตัดสินแล้ว

ด้านมารดาของผู้ตาย กล่าวว่า เราต่อสู้มานานพอสมควร ทำให้รู้ว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง เหมือนที่เราเห็น รับรู้ พิสูจน์มาว่า ลูกเราไม่ได้ฆ่าตัวตาย ที่ผ่านมาเราเชื่อจากพยานหลักฐานไม่ได้คิดเอง เรื่องที่สงสัยว่าลูกคิดสั้น พอรู้ว่าพยานหลักฐานแสดงว่าเป็นไปไม่ได้ เราจึงต้องหาความจริง ผลที่ออกมาก็เป็นอย่างที่รอ และพอใจกับคำตัดสิน

...

มีรายงานว่าจำเลยได้พยายามยื่นหลักทรัพย์จำนวนหนึ่งเพื่อขอปล่อยชั่วคราว

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายแพทย์ปราโมทย์ กับนางสาวจิตพิมล จำเลยทั้ง 2 ในคดีดังกล่าวโดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินกู้เงินคนละ 500,000 บาทประกันตัวในที่สุด.