โจรที่นครศรีธรรมราช ย่องเข้ามาลักของในร้านอาหาร เก็บใส่ถุงแล้วไปหลับอยู่ในซอกหลังร้านจนเช้า เจ้าของร้านมาเจอแจ้งตำรวจ ต้องใช้เท้าเตะให้ตื่น จับสับกุญแจมือ สารภาพเมื่อคืนก่อนก็มาลักของที่นี่ ส่วนคืนนี้ลักเสร็จรู้สึกเพลีย ง่วง เลยเผลอหลับไป 

เช้าวันนี้ 11 ธ.ค. ขณะที่ ร.ต.อ.อุเทน รินธิจักร์ รองสวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กำลังปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ เหตุเกิดที่ร้านขายอาหารตามสั่ง ชื่อร้านอาหารเจ้าพระยา ตั้งอยู่สามแยกหน้าตลาดเทศบาล ถนนปากนคร ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยคนร้ายยังอยู่ในร้านที่ก่อเหตุ จึงนำกำลังรุดไปยังร้านดังกล่าว พบผู้เสียหาย เป็นเจ้าของร้าน คือนางประทุม รัตนะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211 หมู่ 10 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช และคนในร้าน นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบว่าภายในร้าน มีร่องรอยการรื้อค้นของใช้ภายในร้าน อาทิ น้ำดื่ม น้ำอัดลม ซอสแม็กกี้ ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก และของใช้ในร้านอื่นๆอีกหลายรายการ ถูกคนร้ายขนใส่ถุง และกระสอบปุ๋ย วางอยู่บนพื้น ส่วนที่ซอกเล็กๆ ด้านหลังของห้องน้ำของร้านมีชายคนหนึ่งซึ่งป็นคนร้าย นอนหลับอยู่บนพื้นปูน บริเวณซอกดังกล่าว

...

จากนั้นตำรวจนายหนึ่ง ค่อยๆ ใช้เท้าเขี่ยและเตะคนร้ายที่กำลังนอนหลับอยู่ จนคนร้ายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุม สับกุญแจมือ เอามือไพล่หลังทันที ทราบชื่อคนร้ายรายนี้คือนายอนุชา ธิบดี อายุ 34 ปี บ้านเดิมอยู่หมู่ 1 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันมาเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ที่ห้องแถวให้เช่า ย่านตลาดท่าวัง ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเจ้าตัวให้การกับตำรวจว่าจำเลขที่บ้านที่มาเช่าไม่ได้ เนื่องจากเพิ่งไปเช่าไว้ได้เพียงไม่กี่วัน

นายอนุชาให้การว่ามีอาชีพรับจ้างทั่วไป และยอมรับว่าก่อเหตุ แอบลักลอบเข้ามาในร้านอาหารเจ้าพระยาของผู้เสียหายจริง โดยเมื่อช่วงประมาณตีสามเศษ ได้เข้ามารื้อค้นเพื่อหาของมีค่า ของใช้ รวมถึงอาหาร เครื่องดื่ม เมื่อได้แล้วก็เก็บใส่กระสอบและถุงเพื่อจะนำออกจากร้านหลบหนีไป แต่เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาตนไม่ได้นอนทั้งคืน จึงง่วงนอนมาก เผลอหลับไปด้านหลังร้าน กระทั่งตำรวจมาเตะก้น จึงตกใจตื่นขึ้นและถูกจับ

ทั้งนี้ คนในร้านได้นำภาพจากกล้องวงจรปิด มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ และสอบถามกับนายอนุชา ว่าเมื่อคืนวาน ก่อนหน้าเกิดเหตุวันนี้ 1 คืน มีคนร้ายแอบเข้ามาลักทรัพย์ในร้านนี้ด้วย โดยภาพคนร้ายที่กล้องวงจรปิดบันทึกเอาไว้ได้ มีความเหมือนกับนายอนุชาเป็นอย่างมาก หลังจนมุมด้วยหลักฐาน นายอนุชาให้การยอมรับว่า เมื่อคืนวานได้แอบเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ข้าวของในร้านไปครั้งหนึ่งแล้วจริง โดยก่อเหตุร้านเดียวกัน ติดต่อกัน 2 คืนรวด

ด้านนางประทุม รัตนะ เจ้าของร้านให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ร้านจะเปิดขายและให้บริการลูกค้าในช่วงกลางวัน ส่วนกลางคืนจะปิดร้านไว้ ไม่มีคนนอนเฝ้า ตนและคนในร้านจะกลับไปนอนและพักผ่อนที่บ้าน คืนก่อนหน้านี้ มีคนร้ายเข้ามารื้อค้น ขโมยเครื่องใช้ไฟฟ้าไปหลายอย่าง เช่น กระติกน้ำร้อน ลำโพงเครื่องเสียง เครื่องปั่นผัก เครื่องปั่นผลไม้ ปลั๊กไฟชนิดต่างๆ หลายอัน รวมถึงของใช้ในร้านอีกหลายรายการ แต่ยังไม่ได้แจ้งความเนื่องจากเมื่อวานนี้ยุ่งมาก มีลูกค้าสั่งอาหาร ที่ต้องไปส่งให้นอกร้านหลายแห่ง กระทั่งมาเกิดเหตุ คนร้ายแอบเข้ามาลักทรัพย์อีกในคืนนี้ และคนร้ายก็เป็นคนเดียวกัน

"แค้นใจมาก คนร้ายมันขโมยทุกอย่าง แม้แต่เสื้อยืดแขนยาวสีแดงที่มันใส่อยู่ก็เป็นเสื้อของลูกสาวคนโตที่มันขโมยไปเมื่อคืนวาน วันนี้เอามาใส่ก่อเหตุ ยืนยันจะเอาเรื่องถึงที่สุด"