"แม่" ร้อง "ปวีณา" ลูกสาววัย 12 ถูกครูสอนพิเศษ ที่สอนกันมาตั้งแต่ ป.2 จนถึง ป.6 ออกอุบายติวเข้มพิเศษ ขยี้กามคาห้องเช่า เผยแจ้งความแล้ว-หวั่นครูไหวตัวหนี ล่าสุดตำรวจตามจับได้แล้ว เค้นสอบยอมรับสารภาพ ด้านเหยื่อยังมีอาการหวาดกลัว เตรียมประสาน ยธ.เยียวยา-พม.ฟื้นฟูสภาพจิตใจ 

เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 1 ธ.ค.64 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางปวีณา หงสกุล เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 30 พ.ย.64 แม่ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ไ้ด้โทรศัพท์มาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯว่า ลูกสาวถูกครูสอนพิเศษ อายุ 62 ปี ปลุกปล้ำข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดย นางปวีณา เปิดเผยต่อว่า สืบเนื่องจาก ด.ญ.เอ ได้ไปเรียนพิเศษกับครูผู้ชายคนดังกล่าวโดยใช้ห้องเช่าของครูเป็นสถานที่ในการเรียนการสอน ซึ่งมีเด็กนักเรียนชายอีก 1 คน มาเรียนด้วย ต่อมาวันที่ 27 พ.ย.64 เวลาประมาณ 13.00 น. เมื่อเรียนเสร็จ ครูได้ให้นักเรียนชายกลับก่อน อ้างว่าจะติวเพิ่มเติมให้กับ ด.ญ.เอ จากนั้นครูได้ปิดประตูห้องและปลุกปล้ำข่มขืน  และข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 28 พ.ย.64 ด.ญ.เอ จึงตัดสินใจเล่าให้แม่ฟัง และพาเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัว ด.ญ.เอ ไปตรวจร่างกายแล้ว แต่เกรงว่าครูจะรู้ตัว วันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา แม่จึงติดต่อเข้ามาที่มูลนิธิฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งแม่ได้ให้ ด.ญ.เอ เรียนกับครูรายนี้ตั้งแต่ชั้น ป.2 จนถึง ป.6 โดยเสียค่าเล่าเรียนเดือนละ 1,000 บาท โดยไม่คิดเลยว่า ลูกสาวจะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ 

ทั้งนี้ ภายหลังรับแจ้ง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต ทันทีเพื่อติดตามคดี และในวันนี้ (1 ธ.ค.) ได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯพาแม่ และ ด.ญ.คนดังกล่าว ไปพบ โดย พ.ต.อ.จตุพร ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ รอง ผกก.(สอบสวน) ดำเนินการและสั่งการให้ ร.ต.ท.พิสิษฐ์ จองจารุวงศ์ พนักงานสอบสวนสอบปากคำผูเป็นแม่ จากนั้นได้นำตัวครูผู้ก่อเหตุ มารับทราบข้อกล่าวหาและทำการสอบสวน โดยครูให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวครู (ผู้ก่อเหตุ) ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดปทุมธานี ส่วน ด.ญ.ผู้ตกเป็นเหยื่อ ยังมีอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังต้องไปพบแพทย์ตามนัด โดยมูลนิธิฯจะให้การดูแลและประสานกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เพื่อพาผู้เสียหายยื่นขอรับเงินเยียวยา พร้อมทั้งประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ (พม.) เข้ามาช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ และช่วยเหลือครอบครัวร่วมกับมูลนิธิฯต่อไป