เดือดร้อนถึงพ่อแม่ หนุ่มมือฉก ATM ลุงพิการขายที่ดินนำเงินมาใช้รักษาตัวเอง รูดเงิน 2 แสนเดือดร้อนหนัก ถูกเจ้าของเงินตามมาถาม ลูกชายหายไปไหน อาจต้องขายบ้านสมบัติชิ้นสุดท้าย เอาเงินไปให้เขา เผยลูกชายเคยเป็นคนดี แต่เสียคนเพราะโทรศัพท์มือถือ

วันที่ 21 พ.ย. 64 กรณีนายเกษม บุญศรี อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 16 ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พิการอัมพฤกษ์ซีกขวา ถูกนายไชยัน หรือฟาง ดวงแก้ว อายุ 30 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกันและสนิทกัน แอบมาขโมยบัตร ATM ไปกดเอาเงินสดจำนวน 200,000 บาท จากบัญชีของนายเกษม เมื่อเจ้าของบัตรรู้ ได้โอนเงินคืน 50,000 บาท ล่าสุดยังไม่สามารถติดต่อได้ เพราะปิดโทรศัพท์มือถือไว้ คาดว่าน่าจะขับรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งซื้อใหม่ พร้อมสร้อยคอทองคำหนักอีก 1 บาทไปบ้านแฟนสาวที่ จ.เชียงราย

เหตุดังกล่าวนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าของเงินที่ขายที่นา 10 ไร่ เป็นเงิน 1.6 ล้านบาท เพื่อหวังเก็บเงินไว้รักษาตัวเอง และเพิ่งได้รับเงินมัดจำมาจำนวน 700,000 บาท แต่นายฟางอาศัยความคุ้นเคยกัน และช่วยเหลือลุงมาโดยตลอด ขโมยไปกดเงิน นอกจากนี้แล้วยังสร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อแม่ของนายฟางอีกด้วย เนื่องจากถูกนายเกษมทวงถามหลายครั้งว่าลูกชายไปอยู่ไหน ลักษณะอยากให้ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

...

นายบุญทรง ดวงแก้ว อายุ 61 ปี พ่อนายฟาง กล่าวว่า ปกติลูกชายเป็นคนดี แต่มาเริ่มเสียคนตอนที่เล่นโทรศัพท์ ช่วงไปทำงานในห้างฯ เคยขโมยโทรศัพท์จนถูกจับจำคุกมาแล้ว 1 ครั้ง ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุในลักษณะนี้อีก ตอนนี้อึดอัดที่ถูกนายเกษตมมาทวงถาม ถึงขั้นคิดว่าถ้าลูกชายหายไปเลย อาจจะขายบ้านหลังที่อยู่ เอาไปใช้หนี้เขา แล้วไปหาอยู่ตามที่สาธารณะ

เช่นเดียวกับ นางมาลี ดวงแก้ว อายุ 59 ปี แม่นายฟาง บอกว่า เคยสอนเสมอว่าไม่ให้ทำชั่ว แต่ทำไมกล้าทำกับคนที่เคยไปอยู่อาศัยกับเขา ตอนนี้พูดไม่ออก อยากให้ลูกเอาเงินมาคืนเขา เพราะพ่อแม่ทางบ้านบอบช้ำมากจากการกระทำของลูก.