พนักงานสอบสวนกองปราบ ส่งตัว 136 ผู้ต้องหา คดีทุจริตโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ที่มี ททท.เป็นผู้เสียหาย ในส่วนของ จ.ชัยภูมิ และภูเก็ต มูลค่าความเสียหายเกือบ 100 ล้าน ให้อัยการสั่งฟ้อง

เวลา 10.30 น. วันนี้ 15 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผช.ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง.ผบก.ป.นำตัวกลุ่มผู้ต้องหา ที่ร่วมกันฉ้อโกงในโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" จำนวน 136 คน ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ร่วมกันทุจริตเบิกเงินในโครงการนี้ ในการเช่าห้องพักซื้อสินค้าอาหาร โดยรู้เห็นกับเจ้าของที่พัก จนทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณเกือบ 100 ล้านบาท เพียงแค่ 2 จังหวัดคือ จ.ภูเก็ต และ ชัยภูมิ

พล.ต.ท.ชยพล กล่าวว่า ยังมีเจ้าของกิจการ ที่ยังต้องถูกดำเนินคดีอีกหลายคน เท่าที่ตรวจสอบกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่เข้าแจ้งความแล้วกว่า 1,000 ราย พบความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละพื้นที่ดำเนินคดีต่อไปแล้ว

พล.ต.ท.ชยพล กล่าวต่อว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีผู้เกี่ยวข้อง 3 ส่วน เจ้าของโรงแรม ร้านค้าที่ร่วมโครงการ และภาคประชาชน แต่มีคนบางกลุ่มมีแนวคิดที่ไม่ถูกต้องไปใช้วิธีฉ้อฉล โรงแรม ร้านค้า ที่มีแอปพลิเคชันถุงเงิน ส่วนภาคประชาชนมีแอปเป๋าตัง ก็มีบางคนไปเอาสำเนาบัตรประชาชน มาเปิดใช้สิทธิ์ได้รับเงินเล็กน้อยจ่ายค่าตอบแทนให้ บางรายได้เพียงหลักร้อยก็ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนเงินที่เหลือไปเข้ากระเป๋าโรงแรม ร้านค้า ยืนยันว่าจะดำเนินคดีทุกรายอย่างเด็ดขาด และฝากเตือนพี่น้องประชาชนคิดให้ดี รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว เรามีสิทธิ์ก็ใช้ตามปกติ แต่หากไปใช้ในทางที่ผิดจะต้องถูกดำเนินคดี

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงวิธีนำบัตรประชาชนมาเปิดใช้สิทธิ์ว่า จะมีผู้รวบรวมสิทธิ์ไปเอาเลขบัตรประชาชน จากนั้นเข้าระบบสมัครใช้สิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกันตามปกติ โดยที่เจ้าของบัตรไม่ได้มีการไปพักโรงแรม ใช้จ่ายตามร้านค้าที่ร่วมโครงการจริง คดีนี้รัฐเป็นผู้เสียหาย ผู้ต้องหานับร้อยรายเป็นเจ้าของโรงแรม ร้านค้า ผู้รวบรวมสิทธิ์

...

"ที่ จ.ชัยภูมิ และ จ.ภูเก็ต ในคดีทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับโรงแรม ร้านค้า 1 พันกว่าคดี ความเสียหายประมาณ 2 พันกว่าล้าน ฝากเตือนพี่น้องประชาชน ได้รับผลตอบแทนไม่มาก แต่อาจต้องถูกดำเนินคดีสถานหนัก ส่วนการดำเนินคดีในเฟส 3 นั้น ทาง ททท.มีการแจ้งเบาะแสการทุจริตเข้ามาแล้ว แต่ยังไม่มีการเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบ"