ตำรวจทุ่งใหญ่ไขคดีพบโครงกระดูก ข้างกอกล้วยใน มทร.ทุ่งใหญ่ พยานปากสำคัญให้ข้อมูลสำคัญ ชี้ผู้ตายไม่ใช่เป็นลมตายแต่ถูกรุ่นพี่ก๊วนยาเสพติดทวงค่ายาใช้ไม้ตีตาย ก่อนจะตามไปจับผู้ต้องหาไปดำเนินคดี
จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 14.20 น.วันที่ 24 ต.ค.64 ร.ต.อ.สัมภาษย์ ผลถาวร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีคนพบศพนอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าข้างกอกล้วย ภายในกำแพงรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ทุ่งใหญ่ (มทร.) หมู่ 5 ต.ทุ่งใหญ่ ออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติพงศ์ ทองทิพย์ ผกก. พ.ต.ท.ปฏิวัติ ขุนวัง รอง ผกก.ป. ร.ต.ต.ทศพล กาญจนหิรัญ สวป. ร.ต.อ.รักธรรม ส้มเขียวหวาน รอง สว.สส. ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นายอาภรณ์ สวัสดิวงศ์ กำนันตำบลทุ่งใหญ่ ด.ต.สำเริง หม่อมนวล หัวหน้าป้อมสายตรวจเกษตรหน้ามหาวิทยาลัยศรีวิชัยทุ่งใหญ่ นพ.สันติภาพ คงศาลา แพทย์เวร รพ.ทุ่งใหญ่ จนท.กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่ออินทร์ และ จนท.กู้ภัยมูลนิธิศรัทธาสามัคคีการกุศลจุดเกษตร
ที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย มทร.เนื้อที่ 2,500 ไร่ พบศพเพศชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 23-25 ปี สภาพนอนหงายหน้าอยู่ในพงหย้าข้างกอกล้วย ติดกับกำแพงรัวด้านหลังของมหาวิทยาลัย มีหัวกระโหลกและโครงกระดูกโผล่ตั้งแต่ช่วงเอวขึ้นมาไม่ใส่เสื้อ ส่วนช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไปใส่กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ใส่กางเกงบ็อกเซอร์ไว้ด้านใน 1 ตัว ข้างเท้าพบรองเท้าแตะ 1 ข้าง ศพส่งกลิ่นเหม็นโชยไปทั่ว เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด ต้องรอแพทย์เข้ามาชันสูตรอย่างละเอียด แต่ขณะที่รอแพทย์ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยต้องหาที่หลบฝนกันจ้าระหวั่น เนื่องจากเป็นพื้นที่โล่งเนื้อที่กว้างไม่มีบ้านคน
...
จากการสอบสวนนายไชยยันต์ วงศ์กูล เจ้าหน้าที่ รปภ.ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (มทร.) ให้รายละเอียดว่า ขณะมาเข้าเวรที่ป้อมยามหน้ามหาวิทยาลัย มีชาวบ้านเดินมาแจ้งว่าได้กลิ่นเหม็นตลบอบอวน โชยออกมาจากข้างกำแพงรั้วของมหาวิทยาลัยด้านหลัง จากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์มาตรวจสอบ และจอดรถไว้ข้างถนนในมหวิยลัยใกล้จุดเกิดเหตุ เดินเท้าบุกป่าหย้ารกเข้าไปดูพบเป็นสพเพศชายนอนตายเห็นโครงกระดูก และกระโหลกศีรษะโผล่ จึงแจ้งหัวหน้า รปภ.ให้ทราบก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เข้ามาตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.อ.กิตติพงศ์ ทองทิพย์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ กล่าวว่า ศพที่พบในครั้งนี้น่าจะเป็นคนในพื้นที่ ดูจากสภาพศพแล้วไม่ใส่เสื้อ นุ่งกางเกงขายาวเพียงตัวเดียวและใส่กางเกงบล็อกเซอร์ชั้นใน 1 ตัว อาจจะเดินมาหาเห็ดหรือของป่าในั้วมหาวิทยาลัย ระหว่างที่เดินหาของป่าอาจจะเป็นลมหน้ามือโดยที่ไม่มีใครเห็น เป็นเหตุให้เสียชีวิตก็เป็นได้ นพ.สันติภาพ คงศาลา สันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10-15 วัน เบื้องต้นได้สั่งการให้ตำรวจสืบสวนออกหาข่าวเร่งคลี่คลายคดี และประกาศตามหาญาติเพื่อมายืนยันว่าเป็นใครมาจากไหนต่อไป
ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อวันที่ 25 ต.ค.64 พ.ต.อ.กิตติพงศ์ ทองทิพย์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับงานจาก พ.ต.ท.ชวนินณ์ วิทยเจษฏาธนภัต รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ธนบดี บุญขวัญ สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจสืบสวนนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่ง ว่า ได้นำกำลังเข้าควบคุมตัวผู้ตัวนายอธิศักดิ์ ต่างสี หรือบ่าว อายุ 41 ปี ชาวบ้าน หมู่ 5 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้ที่บ้านพักขณะที่กำลังนอนหลับซึ่งตกผู้ต้องสงสัย ว่าเป็นคนลงมือฆ่านายภาคภูมิ รามฤทธิ์ หรือ ภาค อายุ 27 ปี ชาวบ้าน หมู่ 5 ต.ทุ่งใหญ่ ที่พบเป็นศพเหลือแต่โครงกระดูกนอนเสียชีวิตอยู่ข้างกอต้นกล้วย ต่อมาตำรวจควบคุมตัวมาสอบสวนโดย พ.ต.อ.กิตติพงศ์ เป็นผู้สอบสวนด้วยตัวเอง
พ.ต.อ.กิตติพงศ์ กล่าวว่า หลังจากถูกสอบสวน นายอธิศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ตอนเช้าวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา เดินออกหาตัวต่อเพื่อนำไปขายได้แวะมาพบนายภาคภูมิที่ขนำห่างจากจุดเกิดเหตุ 200 เมตร เพื่อมาพูดคุยทวงถามเรื่องเงินค่ายาเสพติดจำนวน 800 บาท ที่ให้ไปหาซื้อยาเสพติดมาให้ นายภาคภูมิพยายามบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา และหลบหน้าหายไปนานร่วมเดือน พอเจอหน้าก็รับปากว่าจะเอาเงินมาคืนบ้าง เดียวจะไปหายามาให้บ้าง แต่ก็ไม่เห็นได้คืนสักทีกระทั่งวันเกิดเหตุก็มาพบเข้าเข้าพอดีได้ทวงถามอีกครั้ง นายภาคภูมิก็ปฏิเสธเช่นเดิมด้วยความโมโหจึงลงมือเอาไม้ขนาดความยาว 1 เมตรที่ถือติดตัวมาตีที่ตัวและศีรษะไป 3 ครั้งจนเลือดอาบท่วมตัว นายภาคภูมิหลังถูกนายอธิศักดิ์ทำร้ายก็พยายามวิ่งหนีตายไปแอบซ่อนตัวอยู่ข้างกอกล้วยภายในรั้วของมหาวิทยาลัย ระหว่างที่แอบซ่อนตัวได้นำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพบาดแผล ขณะที่เลือดกำลังไหลย้อยเป็นทางเต็มตัวส่งให้เพื่อนสาวคนสนิทชื่อป้อมดู ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่นายภาคภูมิจะนอนเสียชีวิตตรงบริเวณจุดที่ถ่ายข้างกอต้นกล้วย
...
ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ กล่าวอีกว่า จากที่ได้สอบปากคำ น.ส.ป้อม เพื่อนสาวคนสนิทของนายภาคภูมิที่เสียชีวิตเป็นพยาน โดย น.ส.ป้อม ให้การว่า ได้รับภาพที่นายภาคภูมิถูกทำร้ายเลือดท่วมตัว ส่งมาให้ทางโทรศัพท์ในตอนสายวันที่ 9 ต.ค. น.ส.ป้อมยังได้พูดคุยหยอกล้อไปว่า "ตายๆไปซะ" จากนั้นก็ขาดการติดต่อไปเลย ตำรวจจึงสันนิษฐานว่าหลังนายภาคภูมิถูกทำร้ายร่างกายในวันที่ 9 ต.ค. ตกเย็นอาจจะเสียชีวิตในวันนั้นก็เป็นได้ เนื่องจากเสียเลือดมากไม่กล้าออกไปรักษา และกระโหลกศีรษะได้รับการกระเทือนรุนแรง จนกระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 24 ต.ค.ก็พบศพนายภาคภูมินอนเสียชีวิต เหลือแต่กระโหลกศีรษะกับโครงกระดูกร่างกายที่โผล่ให้เห็น รวมระยะเวลา จากวันที่เกิดเหตุ คือ วันที่ 9 ต.ค.จนมาพบเป็นศพในวันที่ 24 ต.ค.เป็นระยะเวลา 16 วัน ซึ่งตรงกับที่แพทย์ รพ.ทุ่งใหญ่ สันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10-15 วัน
...
พ.ต.อ.กิตติพงศ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนศพนายภาคภูมิ ทางตำรวจได้อายัดศพเพื่อนำไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียดหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายอธิศักดิ์ว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเสพยาเสพติดโดยผิดกฏหมาย นำตัวส่งให้ ร.ต.อ.สัมภาษย์ ผลถาวร พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดีดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.