รวบแล้วสองหนุ่มสาวมีเซ็กซ์บนเจดีย์เก่ากลางเมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านสุดทนถ่ายคลิปประจาน ก่อนแจ้งตำรวจจับ ขณะที่ผู้ต้องหารับผิดอ้างเป็นแฟนเก่ามาเจอกันเลยเกิดอารมณ์ กราบขอโทษสังคมและชาวเชียงใหม่
จากคลิป ที่มีพลเมืองดีสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ หนุ่มสาว ทำอนาจารมีเพศสัมพันธ์กันบริเวณด้านหลังเจดีย์เก่าใจกลางเมืองเชียงใหม่ อยู่ติดกับถนนช้างเผือก ซึ่งตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทำการจับกุมตัว หญิงและชายที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวได้ทันทีหลังมีคนแจ้ง พบว่าฝ่ายชายอายุ 48 ปี ชาว จ.ลำพูน และฝ่ายหญิงอายุ 42 ปี ชาว จ.ลำปาง มีอาชีพรับจ้างทั่วไป
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณเจดีย์ดังกล่าว ชื่อว่าวัดเจดีย์แดงนอก (ร้าง) ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2529 ด้านหลังวัดร้างมีเส้นทางออกได้สองทาง และมีชายเร่ร่อนนอนอยู่ 1 คน มีอาวุธมีดอยู่ข้างกายมีกระเป๋าเสื้อผ้า สัมภาระกองอยู่ด้วย ทางตำรวจ สภ.ช้างเผือก จึงเชิญตัวชายคนดังกล่าวไปโรงพัก ขณะที่ ชาวบ้านย่านนั้นเปิดเผยว่าเห็นจนชินตาว่ามีคนเร่ร่อนมานอนและดื่มสุรา ดมกาว มั่วสุมกันประจำบางครั้งก็ทะเลาะชกต่อยกันสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน
ทางด้าน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้สอบสวน หญิงและชาย ทั้งคู่ยอมรับว่าเป็นบุคคลเป็นที่ปรากฏในคลิปจริง แต่ไม่ยอมรับว่าได้ก่อเหตุ ขณะสอบสวนพบว่า ฝ่ายชายมีลักษณะอาการมึนเมาสุรา อีกทั้งยังมีการพูดจาท้าทายผู้สื่อข่าว ในเชิงว่า อยากถามอะไรก็ถามมา พร้อมจะตอบคำถาม อีกทั้งยังระบุว่า “ฝ่ายหญิง ทำงานขายบริการอยู่ที่ท่าแพ” และได้นัดกันมาพักผ่อนที่จุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะมีคนเห็นเหตุการณ์ ถ่ายคลิปและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถูกจับในที่สุด เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลโดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
...
ต่อมา ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ได้ให้การยอมรับ โดยฝ่ายชายบอกว่า เคยเป็นแฟนเก่าของฝ่ายหญิง และในวันนี้มาเจอกัน จึงได้แอบมีอะไรกันที่บริเวณด้านหลังเจดีย์ โดยไม่คิดว่าจะมีคนเห็น เนื่องจากด้านหลังเป็นที่ลับตา และส่วนตัวไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ที่โบราณสถาน ซึ่งตนกับฝ่ายหญิงอยากขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น และขอโทษชาวเชียงใหม่ที่กระทำการในลักษณะดังกล่าวไป พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไม่ก่อเหตุเช่นนี้อีก ซึ่ง พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ผกก. ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ออกตรวจในพื้นที่ล่อแหลมและที่พักคนเร่ร่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก.