กรณี หนุ่มใหญ่ชาวอุดรฯ ถือปืนบุกบ้านหวังจี้ชิงทรัพย์ลุงฝรั่งวัย 63 แต่โดนแย่งปืนและต่อยเตะจนตายคาบ้าน ผู้การอุดรฯ ยันคดีนี้ให้ความเป็นธรรม ต้องแบ่ง 2 คดีฝั่งผู้ตาย และลุงฝรั่งที่ป้องกันตัว

กรณีเมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2564 คนถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านขมิ้น ต.กุดสระ ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายเสถียร จันทรขันตรี อายุ 53 ปี ชาวบ้าน หมู่ 7 ต.สร้างแป้น อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นอนหงาย เสียชีวิตอยู่บริเวณห้องครัวเปิดโล่งหลังบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดสีแดงน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีบาดแผลแตกอยู่แก้มขวา และคิ้ว ซึ่งใบหน้ามีร่องรอยฟกช้ำ มีเชือกมัดมือและมัดเท้า จึงนำศพไปชันสูตรที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี โดยมี นายรูดอล์ฟ โยโซฟ โรที อายุ 63 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของบ้าน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ และให้การว่าเป็นคนชกต่อยนายเสถียรจนสลบ แต่ไม่ตั้งใจให้ตาย ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งข้อหานายรูดอล์ฟ “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” พร้อมกับงมหาอาวุธปืนในสระน้ำหน้าบ้าน จนพบอาวุธปืนสั้นขนาด .38 มีกระสุนอยู่ในลูกโม่ 5 นัด ปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก ตามที่ผู้ต้องหาบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวพร้อมของกลางไปโรงพัก

นายรูดอล์ฟ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนอาศัยอยู่บ้านหลังนี้กับภรรยา 2 คน ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 22.30 น. ตนนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่โต๊ะห้องครัวหลังบ้าน ส่วนภรรยากลับมาจากดื่มสังสรรค์กับเพื่อนแล้วเข้านอน ผู้ตายได้ปีนรั้วคอนกรีตถืออาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้ามา พร้อมกับเล็งปืนมาที่ตน พร้อมกับพูดว่าส่ง "money money" ตนจึงเดินเข้าไปจับแขนผู้ตายทุ่มลงกับพื้นและแย่งปืน ขณะกำลังแย่งปืนกัน ปืนเกิดลั่น 1 นัด แต่ไม่ถูกใคร ตนแย่งปืนมาได้ก็โยนทิ้งลงสระน้ำข้างบ้าน และชกต่อยและเตะผู้ตายจนสลบหมดสติแน่นิ่งไป ตนเกรงว่าผู้ตายจะฟื้นขึ้นมาทำร้ายตนอีก จึงนำเชือกมามัดมือ มัดเท้าไว้ เสร็จแล้วไปปลุกภรรยา ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้แจ้งตำรวจ แต่พอผู้ใหญ่บ้านมาตรวจก็พบว่านายเสถียรเสียชีวิตแล้ว

...

ด้าน นางลักษณ์ ภรรยานายรูดอล์ฟ โยโซฟ ให้การว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับสามี ซึ่งมีอาชีพเป็นสถาปนิกมาประมาณ 10 ปี และมีเงินเกษียณหลายหมื่นบาทไว้สำหรับใช้จ่าย พวกตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร และไม่เคยมีศัตรู ตนเป็นคนชอบสังสรรค์กับเพื่อน ตนมักจะไปสังสรรค์ที่บ้านเพื่อนตามหมู่บ้านต่างๆ ตนจึงมีเพื่อนมาก และเมื่อ 2 ปีก่อนได้รู้จักกับนายเสถียร ผู้ตาย เพราะเป็นเพื่อนของเพื่อน ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และทำนา ผู้ตายได้ชวนตนและเพื่อนไปดื่มเหล้าที่บ้านผู้ตาย และทราบว่าผู้ตายมีใจชอบพอตน และโทรหาประจำ แต่ตนไม่เล่นด้วย เห็นที่ไหนก็ทักทายกันธรรมดา และแปลกใจไม่คิดว่าผู้ตายจะบุกมาก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์สามีตน และต่อสู้กันจนถึงแก่ความตาย

ความคืบหน้าต่อมาเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ต.ค.64 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ศักดา เหมือนโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.นพดล วิเศษศรี รอง ผกก.สส.หน.สภ.นาข่า พ.ต.อ.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจควบคุมตัว นายรูดอล์ฟ โยโซฟ ผู้ต้องหา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยไม่มีชาวบ้านมาดู เพราะบ้านเกิดเหตุอยู่ห่างจากหมู่บ้าน และไม่ปรากฏญาติของผู้ตายมาดูการทำแผนแต่อย่างใด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที

ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้ตายได้บุกรุกเข้ามาในบ้าน โดยใช้อาวุธปืนจี้ขู่เอาเงินชาวต่างชาติ จึงต่อสู้กันทำให้ผู้ตายสลบแน่นิ่งและเสียชีวิต ส่วนการดำเนินคดีแยกออกเป็นสองส่วน คดีแรกตั้งข้อหานายเสถียรผู้ตาย “บุกรุกในเวลากลางคืน พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้าน และพยายามฆ่า” ส่วนคดีที่ 2 ตั้งข้อหานายรูดอล์ฟ โยโซฟ “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ถึงอย่างไรก็ตาม เราต้องคำนึงถึงเหตุแห่งการป้องกันตัว ตามหลักกฎหมาย ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนเหตุหรือแรงบันดาลใจที่บุกเข้ามา นอกจากจะประสงค์ต่อทรัพย์แล้ว อย่างอื่นต้องสอบลงรายละเอียด ซึ่งพฤติกรรมเป็นตัวบ่งบอกถึงเจตนาอยู่แล้วว่า บุกรุกบ้านผู้อื่นยามวิกาล และมีอาวุธปืนเข้ามา ถือว่าเป็นเหตุฉกรรจ์ ทำให้เจ้าของบ้านต่อสู้.

...