มือปืนโหด ไล่ยิงถล่มฟอร์จูนเนอร์ ครอบครัวค้าน้ำยาง รถตกข้างทาง-เสยต้นไม้ "เมีย" ตายคาที่ กระสุนเจาะหัว 1 เข้าหลัง 2 ฝ่ายผัวสาหัส-กระสุนฝังพรุนไปตาย รพ. ลูกชายวัย 14 รอดคมกระสุน แต่เจ็บหนัก-ขาขวาหัก ตำรวจเร่งเช็กกล้อง-แกะรอยมือปืน ตั้ง 3 ปมสังหารโหด

เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 9 ก.ย.64 พ.ต.ท.อำนาจ สุวรรณโณ สว.(สอบสวน) สภ.รัษฎา รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายตรัง-ทุ่งสง หมู่ 2 ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.สรรทัศน์ วินสน ผบก.ภ.จ.ตรัง พ.ต.อ.ปรีดี นาคช่วย ผกก.สภ.รัษฎา พ.ต.อ.ภิญโญ อุ่นแดง ศพฐ.9 จ.ตรัง พญ.สุภนันท์ ธิติประเสริฐ แพทย์เวร รพ.รัษฎา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์กะปาง และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างรัษฎา 

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ขก 720 สุราษฎร์ธานี ตัวรถมีรอยถูกยิงจนพรุนทั้งคัน สภาพพุ่งตกข้างทางชนอัดกับต้นไม้ หน้ารถพังยับเยิน ภายในรถพบศพ น.ส.วราภรณ์ เพียรดี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 9 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นอนซุกอยู่ระหว่างเบาะด้านหน้า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม กระสุนเข้าหน้าผาก 1 จุด และที่หลัง 2 จุด นอกจากนี้ภายในรถยังพบผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อคือ นายวีรยุทธ ขุนอินทร์ อายุ 39 ปี (คนขับ) อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 2 ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเช่นกัน กระสุนเข้าที่แผ่นหลังหลายสิบนัดจนพรุนทั้งร่าง ส่วนอีกรายคือ ด.ช.วสิษฐ์พล ขุนอินทร์ อายุ 14 ปี ขาขวาหัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯรีบนำส่ง รพ.รัษฎา ก่อน นายวีรยุทธ จะเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วน ด.ช.วสิษฐ์พล แพทย์ได้นำตัวส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ทุ่งสง 

...

จากการสอบสวนทราบว่า ทั้ง 3 เป็นพ่อแม่ลูกกัน ก่อนเกิดเหตุ นายวีรยุทธ (สามี) ขับรถยนต์คันดังกล่าว พา น.ส.วราภรณ์ (ภรรยา) และ ด.ช.วสิษฐ์พล (ลูกชาย) ไปทำธุระที่ อ.ทุ่งสง พอเสร็จธุระกำลังขับรถกลับบ้าน ขณะขับรถใกล้จะถึงบ้านเพียงกี่ร้อยเมตร ถึงทางยูเทิร์นมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับรถยนต์ไล่ตามหลังมาติดๆ พอสบโอกาสชักอาวุธปืนสงครามไล่ยิงจากด้านหลัง ใส่รถนายวีรยุทธและครอบครัว 2 จุด จุดแรกยิงถล่มใส่บริเวณยูเทิร์น และจุดที่ 2 ยิงบริเวณทางตรงใกล้จะถึงบ้านประมาณ 200 เมตร ซึ่งทั้ง 2 จุดห่างกันไม่ถึง 100 เมตร 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหารครั้งนี้ไว้กว้างๆ 3 สาเหตุ คือ 1. โกรธแค้นส่วนตัว 2. ขัดผลประโยชน์ในธุรกิจรับซื้อน้ำยางสด ที่ครอบครัวผู้ตายทำอยู่ อาจจะมีการตัดราคาแย่งลูกค้ากันในพื้นที่ และ 3. ธุรกิจไม่เปิดเผยบางอย่าง ซึ่งต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดต่อไปอีกที ขณะนี้ตำรวจพอทราบข้อมูลรถคนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุแล้ว และกำลังไล่เช็กภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และกล้องหน้ารถของพลเมืองดีที่ขับผ่านในช่วงเกิดเหตุ คาดว่าน่าจะรู้ตัวผู้ก่อเหตุ และออกหมายจับได้ในเร็วๆ นี้