โฆษก บช.น.แถลงสรุปภาพรวมการชุมนุม เผยกรณีโลกออนไลน์แชร์เด็ก 14 ปี มีปอดข้างเดียว ถูกกระบะ คฝ.พุ่งชนก่อนจับกุม เป็นเฟกนิวส์ คนโพสต์ แชร์มีความผิด เผยม็อบปลอมตัวเป็นนักข่าว บุคลากรทางการแพทย์ เข้ามาก่อเหตุความวุ่นวาย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันที่ 8 ก.ย. มีกลุ่มทะลุแก๊ซ นัดหมายรวมตัวเวลา 18.00 น. ที่บริเวณแยกดินแดง บช.น. ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง โดยทาง บช.น. ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้แล้ว
ส่วนการชุมนุมบริเวณแยกดินแดงของกลุ่มทะลุแก๊ซ ในวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ได้มีการขว้างปาสิ่งของต่างๆ ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว ประทัดยักษ์ พลุไฟ ระเบิดต่างๆ ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และจุดไฟเผารถจักรยานยนต์ตำรวจ มีการจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 15 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่อง ลูกแก้วจำนวนหลายลูก นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, มั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีเยาวชนกระทำผิดจำนวน 5 ราย ทั้งนี้ ขอเตือนผู้ปกครองว่า หากบุตรหลานท่านกระทำความผิด ท่านอาจจะมีความผิดและได้รับโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วยเช่นกัน และขณะนี้ได้ทำการออกหมายเรียกผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม จำนวน 195 คน เป็นกลุ่ม แกนนำ 31 หมาย และกลุ่มผู้ชุมนุม 164 หมาย และผู้ปกครอง จำนวน 8 ราย ทำการสอบสวนถ้ามีพยานหลักฐานชัดเจนว่ายินยอมให้เด็กกระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
...
ส่วนกรณีที่มีผู้เผยแพร่ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า เด็กอายุ 14 ปี มีปอดข้างเดียว ถูกกระบะเจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งชน ก่อนใช้กำลังควบคุมตัว แม้พยายามเจรจานั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่า กรณีดังกล่าวในการเข้าทำการจับกุมนั้น เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงใช้รถกระบะขัดขวางปิดการจราจรการหลบหนีของกลุ่มผู้ชุมนุมเท่านั้น ไม่ได้มีการพุ่งชนแต่อย่างใด และจากการจับกุมนั้น ไม่มีรายใดที่เป็นเด็กอายุ 14 ปี ที่มีปอดข้างเดียว มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงรายเดียว คือ นายวิศิษฐ์ เฟื่องศิลา อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ได้ส่งรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลตำรวจ พบว่าไหปลาร้าหลุดเนื่องจากรถล้ม ได้ทำการรักษาเบื้องต้นแล้วอาการไม่หนัก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องทุกข์ดำเนินคดีดังกล่าวตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ม.14 และจะได้รับโทษตามกฎหมาย ทาง บช.น. จะดำเนินสืบสวบรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบบุคคลเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ทั้งตัวการและผู้สนับสนุนมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย
รอง ผบช.น. กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติกัมพูชา ข้อหาความผิดตามฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ และความผิดตาม ป.อาญา 215, 216 ขอเรียนเตือนกรณีทำผิดร่วมชุมนุมหากถูกจับกุมได้จะต้องถูกผลักดันกลับประเทศ เนรเทศกลับประเทศผ่านกระทรวงมหาดไทย ให้เข้าหน้าที่ตำรวจทำแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศไทยต่อไป
ส่วนแผนการเข้าควบคุมพื้นที่นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทาง บช.น.มีการปรับแผนทุกวันให้การทำงานมีประสิทธิภาพและตามการข่าว ส่วนการจับกุมเมื่อมีการรวมตัวกัน ในการสมคบกันวางแผนก่อเหตุกระทำผิดลักษณะดังกล่าวเป็นความผิดซึ่งหน้า จับกุมตัวได้ทันที รวมถึงฝ่าฝืนช่วงเวลาเคอร์ฟิว ส่วนผู้ชุมนุมมีความรุนแรงมากขึ้นจะเพิ่มกำลังหรือไม่ ผบ.ตร. เน้นย้ำทำตามมาตรการใช้อุปกรณ์ โดยมีการใช้สีจากน้ำที่ฉีดคัดแยกคนจับกุมตัวผู้กระทำผิด กลุ่มผู้เสียหายมีการทำลายรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงทรัพย์สินของสำนักระบายน้ำ ที่มีหน้าที่ควบคุมการระบายน้ำ โดยเฉพาะอุโมงค์ดินแดง สอบถามทางผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ ระบบการบรรจุน้ำเสียหาย ระบบไฟเสียหาย หากฝนตกจำนวนมาก ทำให้น้ำท่วมพื้นที่เขตดินแดง ส่วนการป้องกันเพลิงไหม้นั้น ตำรวจต้องเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยกับการบังคับใช้กฎหมาย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่ออีกว่า บช.น. ร่วมกับโฆษก ตร. ได้มีการประชุมหาแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติหน้าที่ปลอดภัย แต่การเข้าไปสถานที่เกิดเหตุก่อให้เกิดอันตรายได้ การตั้งผู้ประสานงานของฝ่ายผู้สื่อข่าวและตำรวจ ทำสัญลักษณ์บอกฝ่ายของผู้สื่อข่าว ทางสมาคมนักข่าวไปหารือและร่วมหารือกับตำรวจอีกครั้ง ฝากทางผู้สื่อข่าวและหน่วยการแพทย์ตรวจสอบหากมีการปลอมตัวเป็นนักข่าวหรือบุคลากรทางการแพทย์มาก่อเหตุ หากบันทึกภาพได้จะได้ดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ตำรวจจับกุมรถพยาบาลปลอมที่ลักลอบนำอาวุธเข้ามาพื้นที่ชุมนุม ส่วนมีแท็กซี่นำยาง 5 เส้นมาวางในพื้นที่ชุมนุมนั้น บุคคลดังกล่าวมีการนำยางรถยนต์มาใช้ในการเผาในหลายสถานที่ หากปรากฏว่ามีการกระทำผิด หากเอามาไว้อาจเป็นตัวการสนับสนุน แต่ถ้าร่วมเผาก็จะถูกดำเนินคดีวางเพลิงเผาทรัพย์ ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย