ตำรวจชุดสืบสวน น.7 และ สน.บางเสาธง รับรายงาน ตำรวจเชียงรายจับกุมนายจะหวะ ผู้ต้องหาคดีฆ่าโบกปูนผู้รับเหมายัดใต้ถุนคฤหาสน์ เบื้องต้นรับสารภาพลงมือจริง คุมตัวตรวจโควิดรอผลก่อนส่งกลับ กทม.

จากกรณีมีผู้ก่อเหตุฆ่าผู้รับเหมาต่อเติมบ้าน ถูกฆ่าโหดโบกปูนฝังใต้ถุนในจุดก่อสร้าง โดย จนท.ตำรวจพบศพ นายสิทธิโชค สาโรจน์ หรือ ช่างสน อายุ 42 ปี ถูกฝังไว้ใต้พื้นบ้านภายในคฤหาสน์หรู ภายใน ซ.บางเชือกหนัง 7 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กทม.

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 21 ก.ค.2564 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. รับรายงานจาก พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ ผกก.สส.บก.น.7 และ พ.ต.อ.ศุภศักดิ์ โปรียานนท์ ผกก.สน.บางเสาธง สนธิกำลังฝ่ายสืบสวน ร่วมกับตำรวจ บก.ภ.จว.เชียงราย จับกุมตัว นายจะหวะ ลาหู่เมอเนอ หรือ พงษ์เทิดไท อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาปาดคอและทุบหัวฆ่า นายสิทธิโชค หรือ ช่างสน สาโรจน์ อายุ 42 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ผู้รับเหมาหมกศพไว้ในไซต์งานภายในคฤหาสน์หรูเลขที่ 5 ซอยบางเชือกหนัง 7 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กทม. โดยจับกุมตัวได้ในพื้นที่หมู่ 4 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. สนง.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในการจับกุม นายจะหวะ ลาหู่เมอเน่อ อายุ 21 ปี ชาวบ้าน ต.เทอดไท อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนพรม ได้ประสานตำรวจเชียงรายเพราะคาดว่าจะหลบหนีมาที่เชียงราย ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจพื้นที่ไปตรวจค้นในหมู่บ้านมา 3 วัน วันนี้มาพบในบริเวณหลังห้วยน้ำอุ่น ห่างจากโรงพักประมาณ 500 เมตร

...

เบื้องต้นผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าลงมือทำร้ายและเอาศพฝังดินเพื่ออำพราง เรื่องการฆ่าและฝังศพได้ให้ภูธรเชียงรายสอบรายละเอียดให้ชัดเจนก่อน ว่าตอนทำร้ายร่างกายตอนนั้นถึงแก่ชีวิตหรือยัง ผู้ต้องบอกว่าได้ใช้มีดอีโต้ฟันที่ศีรษะ มาใช้ค้อนปอนด์ และครั้งสุดท้ายใช้จอบทุบ แต่ฟังดูจากผู้ต้องหา 2 คนที่ช่วยอำพรางศพ ดูเหมือนว่าผู้ตายขณะนั้นยังไม่ถึงแก่ชีวิต เขาก็เอาฝังขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

แรงจูงใจคือเรื่องหนี้สิน ค่าจ้างงานโบกปูนในที่เกิดเหตุไม่ได้รับค่าจ้างประมาณหมื่นกว่าบาท ซึ่งหลังก่อเหตุก็กลับมาทำงานอยู่วันหนึ่ง แล้วถึงหลบหนีภายหลัง เรื่องหลบหนีอย่างไรกำลังสอบเพิ่มเติม หลังจากนั้นก็จะนำไปดำเนินคดีบางเสาธง และทำแผนประกอบการรับสารภาพอีกครั้ง

สำหรับการจับกุมตัวนายจะหวะ จับกุมได้เมื่อเวลา 07.30 น.ที่ผ่านมา ที่บริเวณทางขึ้นดอยตุงห่างจาก สภ.แม่ฟ้าหลวง ไม่ไกล ขณะที่นายจะหวะเดินอยู่ข้างทาง เจ้าหน้าที่สายตรวจได้เห็นจึงเรียกตรวจ และทราบว่าเป็นผู้ต้องหาที่กำลังติดตามตัวอยู่จึงแสดงตัวจับกุม ภายหลังจากที่ได้คุมตัวสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้คุมตัวนายจะหวะเอาไว้ตรวจโควิด-19 ก่อน เนื่องจากเดินทางจากพื้นที่สีแดง มีความเสี่ยงสูง จากนั้นจะนำตัวเข้ากรุงเทพมหานครทำการสอบปากคำ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และให้พนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง ดำเนินการตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม วันนี้มีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีมีผลตรวจโควิด ออกมาเป็นบวก ซึ่งหลังจากนี้จะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ ตามมาตรการป้องกันกันแพร่ระบาดของโรคอย่างเคร่งครัดต่อไป.