ปิดปฏิบัติการปะทะเดือด 7 วัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังเจรจายืดเยื้อไม่เป็นผล "ผบ.ฉก.ปัตตานี" สั่งกุดหัวแกนนำโจรใต้ ดับอีก 2 ศพ มีหมายจับอื้อ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ ตรวจค้นพบอาวุธปืนสงคราม วงจรการประกอบระเบิดจำนวนมาก


จากกรณีกลุ่มก่อความไม่สงบพร้อมอาวุธปืนสงครามหลบหนีการจับกุมจากเหตุปะทะในพื้นที่ ต.เตราะบอน อ.สายุบรี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 2 ราย ขณะที่คนร้ายที่เหลือหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในป่าสาคูร่วมกับเพื่อนที่สร้างเป็นฐานพักพิง ในพื้นที่ ม.5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ไล่ล่าปิดล้อมจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นอย่างดุเดือด ซึ่งตลอดระยะเวลาการปิดล้อมและปะทะจนถึงวันนี้ 7 วัน ทำให้วิสามัญคนร้าย 2 ศพ เมื่อสถานการณ์เริ่มคดีคลาย เสียงปืนทั้งสองฝ่ายเงียบลง เจ้าหน้าที่ได้นำอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงรถแม็คโครเข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อตรวจหาร่องรอยหลักฐานและศพของคนร้าย

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.ค. 64 พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พร้อมด้วยหน่วยกำลังชุดปฏิบัติการและหน่วยทหารช่าง ได้ประชุมเพื่อวางแผนการปฏิบัติในการเข้าเคลียร์พื้นที่หลังจากการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นนำไปสู่การยิงปะทะกันถึง 7 วัน โดยวันนี้ได้มีการจัดกำลังในการเข้าพื้นที่แนวราบโอบล้อมจุดเป้าหมาย เพื่อหาศพคนร้ายและเก็บวัตถุพยานต่างๆ เพื่อนำไปตรวจสอบและขยายผลในทางคดี ซึ่งภายหลังการประชุมวางแผน จึงได้มีการปล่อยกำลังเข้าไปยังพื้นที่จุดปะทะป่าสาคูทันที และจากการตรวจสอบปรากฏว่าพบศพคนร้าย จำนวน 2 ศพนอนเสียชีวิต แต่ละศพห่างกันประมาณ 30 เมตร

...

โดยศพแรกเสียชีวิตบริเวณริมคลอง ทราบชื่อ นายสุไลมาน ดอเลาะ อายุ 33 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.4 ต.กะดุนง อีกรายทราบชื่อ นายอัซมาน สะมะแอ อายุ 30 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย อยู่บ้านเลขที่ 52 ม.4 ต.กะดุนง อ.สายบุรี โดยทั้งสองศพมีบาดแผลจากกระสุนปืนเหตุปะทะ นอกจากนี้ยังพบวงจรประกอบระเบิด จำนวนมาก และอาวุธปืน จำนวน 5 กระบอก เป็นปืนลูกซอง จำนวน 3 กระบอกที่ได้จากการปล้นชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียนบ้านสือดัง ต.เตราะบอน เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 61 และ อาวุธปืนกลมือ จำนวน 2 กระบอก ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นประจำการทหารอเมริกาสมัยสงครามเวียดนาม และก่อนหน้านี้เคยตรวจยึดจากกลุ่มก่อความไม่สงบแล้วหลายกระบอก

สำหรับประวัติของ นายสูไลมาน ดอเลาะ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง ระดับปฏิบัติการและเป็นมือระเบิด มีหมายจับ ป.วิอาญาฯ จำนวน 3 หมาย คือ 1. เมื่อ 22 ก.ย. 60 เหตุ ลอบวางระเบิด จนท.ทพ.ร้อย ทพ.4412 บริเวณถนนสาย 42 บ้านเจาะกือแย ม.1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้ทหารเสียชีวิต 4 นาย 2. เมื่อ 16 มิ.ย. 63 จนท.ปิดล้อมตรวจค้น พบแหล่งพักพิงกลุ่มผู้ก่อเหตุ บริเวณสวนยางพาราสลับสวนปาล์มน้ำมัน บ้านละอาร์ ม.6 ต.กะดุนง อ.สายบุรีฯ และ 3. เมื่อ 22 ต.ค. 58 คนร้ายลักรถ จยย. บริเวณ รพ.สต.ปล่องหอย ม.5 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี

ส่วนนายอัซมาน สะมะแอ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ จำนวน 3 หมาย คือ 1. ยิง ด.ต.พิทักษ์ฯ เสียชีวิต เมื่อ 21 ก.ค. 60 2. เจ้าหน้าที่ตรวจพบแหล่งพักพิงผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ม.3 ต.บือเระ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อ 13 มี.ค. 63 และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบยิง ด.ต.พิทักษ์ รัตนหิรัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สายบุรี บริเวณถนนริมทะเลชุมชนบางตาหยาด ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อ 21 ก.ค. 60 และ 3. เหตุปะทะพื้นที่ ต.กะดุนง อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 16 มิย. 63

พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ได้ดำเนินการมากว่า 7 วัน วันนี้จะปิดปฏิบัติการ เคลียร์พื้นที่เพื่อส่งมอบพื้นที่คืนการดูแลตามปกติ ตอนนี้เคลียร์พื้นที่ไปกว่า 90% แล้ว เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บในส่วนที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับการประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ควบคุมสูงสุดป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จะประกาศใช้วันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) เพื่อลดการรวมตัวของคนจำนวนมาก ตามมาตรการ ก็จะเร่งเคลียร์ส่งมอบพื้นที่คืน โดย 16.00 น. วันนี้จะถอยกำลังกลับ และส่งมอบพื้นที่ให้กับหน่วยที่ดูแลพื้นที่ต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรีรอง ผบช.ภ.9 กล่าวว่า ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายและเจรจาให้คนร้ายยอมมอบตัว แต่คนร้ายยิงต่อสู้ จนเมื่อวานนี้ ก็ได้มีการยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่จนนำไปสู่การวิสามัญคนร้ายไป 2 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าเคลียร์พื้นที่ เพื่อเก็บวัตถุพยาน หลักฐานต่างๆ เพื่อขยายผลต่อไป.