ผบ.ตร. มีวิทยุด่วนสุด ให้กำลังพลทุกหน่วย เข้มมาตรการณ์ป้องกันโควิด-19 ปรับรูปแบบการทำงานเป็นออนไลน์ ในส่วนที่ไม่เกี่ยวคดีอาญาและอาชญากรรม และดูแลกำลังพลที่ป่วยโควิด ให้เข้าถึงการรักษาตามสมควร
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีวิทยุด่วนที่สุด ที่ 0007.33/1976 ลง 7 ก.ค. 64 สั่งการกำชับทุกหน่วยในสังกัดเพิ่มความเข้มงวด มาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามนโยบายขอรัฐบาล เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพนั้น
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มความเข้มงวดกวดขันและเคร่งครัดในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้นในสถานที่ทำงาน หรือบริเวณที่ตั้งหน่วยโดยเฉพาะสถานีตำรวจ หน่วยบริการประชาชนและหน่วยฝึกอบรม ไม่ว่าจะในเรื่องการเว้นระยะห่าง การคัดกรองโรค
ตลอดจนการปรับรูปแบบการทำงานผ่านระบบออนไลน์ ในกรณีที่สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ทั้งในเรื่องการรับแจ้งความ กรณีที่เป็นการแจ้งเป็นหลักฐาน หรือการแจ้งเอกสารหาย ที่ไม่เกี่ยวกับคดีอาญาหรือการบริการด้านต่างๆ และการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ หากพบการติดเชื้อในหมู่กำลังพลและครอบครัวข้าราชการตำรวจในสังกัด ให้ผู้บังคับบัญชากำกับดูแลในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข และให้ความช่วยเหลือตามสมควร รวมถึงพิจารณาดำเนินการตรวจหาเชื้อเชิงรุก และหากหน่วยใดขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาและเร่งรัดเสนอเรื่องเพื่อพิจารณาให้การสนับสนุนต่อไป
...
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยข้าราชการตำรวจและครอบครัว จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาในแต่ละหน่วยคอยดูแลช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาตามความเหมาะสม และขอขอบคุณรวมถึงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่เสียสละ ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ทุกภารกิจในห้วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และขอให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อไป
ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการต่างๆ ของภาครัฐเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน นอกจากนี้หากพี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งมายังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติหมายเลข 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.