โฆษก ตร.เผย กรณีแก๊งกลุ่มไลน์อ้างเป็นหมอหลอกฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มจนมีเหยื่อหลายราย ระบุ ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ กลุ่มคนแอบอ้างว่าจัดหาวัคซีนซิโนฟาร์มได้ ขอให้แจ้งความกับ ตร.ท้องที่ที่โอน
วันที่ 1 ก.ค.64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าว ผู้แทนขายประกันชีวิตแจ้งจับแก๊งต้มตุ๋นจอง "ซิโนฟาร์ม" แต่งเรื่องหลอกล่อจนเชื่อ สั่งจองให้ตัวเองและคนสนิท 20 คน ก่อนสูญเงินให้มิจฉาชีพ 36,000 บาท ว่า กรณีดังกล่าวทราบจาก พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี รายงานว่า ผู้เสียหายมีอาชีพเป็นผู้แทนขายประกันชีวิตในกรุงเทพมหานครและอุดรธานี ได้เข้าไปในกลุ่มไลน์ “Vaccine Sinopharm” คนร้ายอ้างว่ามีวัคซีนซิโนฟาร์มเหลือจากที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสั่งซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในราคา 1 คน 2 เข็ม 1,800 บาท
โฆษก ตร.กล่าวว่า เมื่อเหยื่อหลงเชื่อเข้าไปในกลุ่มไลน์ของคนร้าย ก็ยิ่งให้ความเชื่อมั่นจากข้อมูลชัดเจน-รวดเร็ว อีกทั้งการแจ้งเข้ากลุ่มไลน์ชื่อ “ระบบ IT วัคซีนทางเลือกสำหรับ ร.พ.” และยังมีภาพการจัดส่งรถไปรับคนมาฉีดวัคซีน และได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้ จึงชักชวนคนรู้จัก และลูกค้าผู้ทำประกัน ที่ต้องการฉีดวัคซีนเร็วๆ รวม 20 คน ส่งสำเนาเอกสาร พร้อมโอนเงินส่วนตัวไปให้ 36,000 บาท เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. แต่เมื่อไปตรวจสอบรายชื่อที่ รพ.เอกชน ใน จ.อุดรธานี กลับไม่มีรายชื่อตามที่แจ้งไว้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกแน่นอน และน่าจะทำเป็นขบวนการ และเมื่อตรวจสอบกลุ่มไลน์พบว่ามีสมาชิกกว่า 1,000 คน
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพฤติการณ์ความเชื่อมโยงจากกรณีผู้แทนขายประกันชีวิต พบว่ามีผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ในอีกหลายท้องที่ คือ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ, สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี, สภ.เมืองอุดรธานี, สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น, สน.เตาปูน, สน.สมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งผู้เสียหายทั้งหมดได้โอนเงินจองวัคซีนไปยังบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาแก่งคอย จ.สระบุรี
...
จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพแอบอ้างว่าจัดหาวัคซีนซิโนฟาร์มได้ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าต้องสั่งจองจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เท่านั้น ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายท่านใดที่หลงเชื่อไปแล้ว ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจท้องที่ที่มีการโอนเงิน ทั้งนี้เนื่องจากเป็นการกระทำผิดหลายท้องที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) Police Cyber Taskforce หรือศูนย์ PCT ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ PCT เร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด.