จนท.ปัตตานี ปะทะโจรใต้ที่รีสอร์ตใน อ.ยะหริ่ง เบื้องต้นพบเป็นคนร้ายที่เอี่ยวคดียิงกระบะพ่อค้า ลูกสาวและหลานชาย แล้วเผา 3 ศพ เจรจายังไร้ผล ไม่ยอมมอบตัว จนท.ปิดล้อมทุกด้าน ยังไม่มีฝ่ายใดสูญเสีย
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 21 มิ.ย.64 พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้รับรายงานจาก พ.อ.ธายุทธ สวนกูล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 ว่าพบกลุ่มก่อความไม่สงบ จำนวน 3 ราย หลบซ่อนตัวภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.3 ต.ตะโละสะมิแล อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการปิดล้อมตรวจค้น คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ยิงตอบโต้ประมาณ 10 นาที ก่อนที่เสียงปืนสงบลง เบื้องต้นยังไม่มีฝ่ายใดสูญเสีย
หลังได้รับแจ้งจึงนำกำลังร่วม 3 ฝ่ายเข้าไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกรมทหารพรานที่ 43 เมื่อไปถึงพบว่ารีสอร์ตดังกล่าวอยู่บริเวณริมทะเลหาดตะโละกาโปร์ โดยคนร้ายได้หลบซ่อนตัวภายในบ้านพักด้านทิศตะวันออก สภาพหลังปะทะพบความเสียหายจากร่องรอยกระสุนปืน แต่คนร้ายยังคงหลบอยู่ภายในบ้านพัก
...
กระทั่งเวลา 05.00 น. พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี ทำการเจรจาผ่านเครื่องขยายเสียงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนร้ายออกมามอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล แต่ยังพบความเคลื่อนไหวของคนร้าย เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บ การเจรจายังไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่เดินทางมาเพื่อเจรจากับคนร้ายให้ออกมามอบตัว เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับหรือออกมามอบตัวแต่อย่างใด
พล.ต.คมกฤช กล่าวว่า การดำเนินการปิดล้อมครั้งนี้ สืบเนื่องจากการติดตามคนร้ายกรณีเหตุยิงกระบะพ่อค้าแล้วเผา 3 ศพ ที่เป็นรถของพ่อ ลูกสาวและหลานชาย เสียชีวิตขณะเดินทางด้วยรถกระบะจาก อ.หาดใหญ่ ไปขายของในพื้นที่ จ.นราธิวาส เหตุเกิดในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการติดตามความเคลื่อนไหวของคนร้ายกลุ่มนี่ ทราบว่าหลังเกิดเหตุมีการหลบหนีเข้าไปในหลายพื้นที่ โดยมีแนวร่วมในพื้นแต่ละพื้นที่คอยให้ความช่วยเหลือ
ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวด้วยว่า จนกระทั่งล่าสุดได้หลบหนีเข้ามาพักภายในรีสอร์ตดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบก็ได้จัดกำลังเข้าปิดล้อม และได้มีการยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อนจะมีการยิงตอบโต้ แต่ก็ยังไม่ทราบความสูญของฝ่ายคนร้าย เบื้องต้นเชื่อว่าหนึ่งในคนร้ายน่าจะเป็น นายอัมลัน มะหิเละ อายุ 36 ปี มีหมายจับ 4 หมาย อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังคงปิดล้อมและดำเนินการตามกรรมวิธีจากเบาไปหาหนัก โดยการเจรจา ตามนโยบายแม่ทัพภาคที่ 4.