น.ส.อัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ หรือ เก๋ ภรรยาบัวขาว นักมวยชื่อดังระดับโลก ยื่นขอศาลเยาวชนมีคำสั่งให้ "บัวขาว บัญชาเมฆ" รับรองบุตรสาววัย 5 ขวบ เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู 25 ล้านบาท
ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 เม.ย. น.ส.อัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ หรือ เก๋ ภรรยาของนายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว นักมวยชื่อดัง พร้อมนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ นำหลักฐานภาพถ่ายคู่กันระหว่างเด็กหญิงพิมพ์ญาดา บัญชาเมฆ "น้องมีตังค์" หรือ "น้องข้าวหอม" อายุ 5 ปี กับบัวขาว มาแสดงต่อสื่อมวลชน ก่อนนำไปเป็นหลักฐาน เพื่อยื่นต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ให้พิจารณามีคำสั่งให้ บัวขาว รับรองบุตรสาววัย 5 ขวบ เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูที่ขาดการส่งเสียโดยเฉพาะในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา
ทนายอนันต์ชัย เผยว่า เรื่องนี้ที่จริงเป็นเรื่องดี เพราะเป็นการรับรองให้เด็กคนหนึ่งได้รับสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจากข้อมูลก็ทราบว่าบัวขาวและนางสาวอัญวีณ์ อยู่กินแบบไม่จดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2556 กระทั่งปี 2558 ก็มีบุตรสาวด้วยกัน โดยทั้งสองคนร่วมกันตั้งชื่อว่า "น้องมีตังค์" มีการรับรองในใบสูติบัตรว่า บัวขาว เป็นบิดา นางสาวอัญวีณ์ เป็นมารดา รวมถึงยังให้ใช้นามสกุล บัญชาเมฆ และพามาอยู่ด้วยกันในปี 2559 และเปลี่ยนชื่อเป็น "น้องข้าวหอม" แต่ต่อมาด้วยภาระที่ บัวขาว ต้องเดินทางไปมาหลายประเทศ และมีกิจการดูแลค่ายมวย ทำให้เริ่มเหินห่างกับภรรยาและบุตร โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีหลัง ที่แทบไม่ได้ส่งเสีย หรือช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู ด้วยภาระที่นางสาวอัญวีณ์ แทบจะต้องเลี้ยงดูบุตรตามลำพัง และเพื่อความสะดวกในการดำเนินการต่างๆ จึงมาขอให้ศาลพิจารณามีคำสั่งให้ บัวขาว รับรองบุตรสาวและมอบค่าเลี้ยงดูให้ตามสมควรด้วย
...
ขณะที่นางสาวอัญวีณ์ กล่าวว่า เรื่องการเรียกร้องเงินค่าเลี้ยงดูไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะทุกวันนี้ก็พอหาเลี้ยงดูแลบุตรสาวได้บ้างแล้ว จากการขายอาหารเสริมออนไลน์ ส่วนเรื่องการอุปการะเลี้ยงดู ยอมรับว่ามีการส่งเสียให้บ้าง แต่ก็ไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อปี และมักอ้างว่าไม่ค่อยมีเงิน โดยไม่อธิบายเหตุผลว่าเพราะอะไร ซึ่งก็เข้าใจเอาเองว่า อาจเพราะต้องนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจค่ายมวยที่ดูแลอยู่ ส่วนที่ตนเองรู้สึกทุกข์ใจคือความรู้สึกของลูก ที่แทบไม่ได้เจอพ่อ และไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า บัวขาว เป็นพ่อของตนเอง ที่ผ่านมาก็เคยพูดเรื่องการให้บัวขาวรับรองบุตรแล้ว แต่ทุกครั้งก็มักบ่ายเบี่ยงและเงียบหายไป
ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้ไปกับผู้ดูแลค่ายมวยของบัวขาว ซึ่งก็ปฏิเสธว่าไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่คาดว่าหากบัวขาวทราบเรื่องแล้ว น่าจะมีการหารือกับทนายความ และชี้แจงเรื่องนี้กับสังคมอีกครั้ง ส่วนตัว บัวขาว ทราบแต่เพียงว่าได้เดินทางไปทำธุระที่จังหวัดสุรินทร์
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามทราบว่าในการขอค่าอุปการะเลี้ยงดู ทนายความได้ยื่นคำร้องเรียกร้องเงินจำนวน 25 ล้านบาท ให้ศาลพิจารณามีคำสั่ง ทั้งนี้ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งนัดไกล่เกลี่ยคู่กรณีทั้งสองในวันที่ 9 ส.ค. เวลา 09.00 น.