ชาวบ้านทำอาชีพรับจ้างโร่ร้อง "ผู้การจันทบุรี" ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ บุกจับคดียาเสพติด หิ้วไปไว้สถานที่ราชการแล้วรีดเงิน 5 หมื่นบาท แลกปล่อยตัว เผยตกเป็นเหยื่อมาแล้ว 4 ครั้ง โดนไปแล้วกว่า 1 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวันที่ 27 เมษายน 2564 ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี (ภ.จว.จันทบุรี) นายใหญ่ (นามสมมติ) อายุ 50 ปี ชาวบ้าน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี อาชีพรับจ้าง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย พร้อมกับครอบครัว เดินทางเข้าพบกับ พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รอง ผบช. ภ.3 รรท.ผบก.ภ.จว.จันทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน จากการต้องเสียทรัพย์สิน หลังตกเป็นเหยื่อกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ บุกจับกุมตัวในคดียาเสพติด ก่อนมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยถูกกระทำมาแล้ว 4 ครั้ง เสียเงินไปรวมกว่า 1 แสนบาท
หลังจากวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มี นางนิด (นามสมมติ) ชาวบ้าน อ.นายายอาม ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ถูกกลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบกลุ่มเดียวกัน จับตัวลูกสาว ในคดียาเสพติดไปกักขัง ก่อนรีดเงิน 30,000 บาท แลกอิสรภาพ เข้าร้องทุกข์กับ นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม
จากการสอบถาม นายใหญ่ (นามสมมติ) บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เม.ย. เวลาประมาณ 18.00 น. ขณะทำงานอยู่ในสวนพื้นที่ อ.ท่าใหม่ ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 7 คน อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบชุดจับกุมสังกัดหนึ่ง ใช้รถยนต์กระบะตอนเดียว และ รถยนต์เก๋ง สีแดง เข้ามาตรวจค้นจับกุมตัว ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือ ยาไอซ์ ไว้ในครอบครอง พร้อมกับ นายโต้ง (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน
...
นายใหญ่ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ยึดเอาอาวุธปืนมีทะเบียน ไปจำนวน 2 กระบอก พร้อมใบอนุญาตให้มี และใช้อาวุธปืนไปตรวจสอบ จากนั้นกลุ่มชายดังกล่าว ได้นำตัวไปควบคุมไว้ที่สถานที่ราชการแห่งหนึ่ง ในระหว่างควบคุมตัวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว จึงได้โทรศัพท์ไปยืมเงินจากพี่สาว หลังจากนั้นได้ให้บุตรชายคนโตของพี่สาวเป็นผู้ขับรถนำเงินจำนวน 50,000 บาท มาส่งให้ยังสถานที่ถูกคุมตัว
จากนั้นหนึ่งในเจ้าหน้าที่จับกุม ได้บอกให้บุตรชายนำเงินไปวางไว้ที่อ่างล้างหน้าของห้องน้ำ ภายในสถานที่ที่ถูกคุมตัว และมีเจ้าหน้าที่อีกคนเข้ารับเงินจำนวนดังกล่าวไป เหยื่อทั้งสองคนจึงได้รับการปล่อยตัวพ้นจากการควบคุม แต่ยังมีอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอกที่ถูกยึดไว้ที่ ภายหลังจากการปล่อยตัวได้มีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ไปรับอาวุธปืนคืน แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ไปรับแต่อย่างใด
ต่อมา ทีมสืบสวนภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้นำตัวนายใหญ่ไปตรวจสอบและชี้รูปบุคคลต้องสงสัย ที่อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ โดยทางตำรวจสืบสวนได้นำเอารูปของบุคคลอื่นๆ มาวางรวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเป็นความเชื่อมโยงกับคดีของสองแม่ลูกที่ถูกเจ้าหน้าที่กลุ่มเดียวกัน อุ้มรีดเงิน 30,000 บาท
ซึ่งทางด้าน นายใหญ่ ได้เดินไปหยิบรูปขึ้นมา 1 ใบ พร้อมกับยืนยันว่า เป็น 1 ในกลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาจับกุมตัว ทั้งนี้ รูปดังกล่าวยังตรงกับข้อมูลของตำรวจสืบสวนว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริง
ทั้งนี้ นายใหญ่ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้านี้ เคยถูกกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ เปลี่ยนหน้ากันเข้ามาจับกุมตัวแล้วรีดเงิน รวมแล้ว 4 ครั้ง ครั้งแรกถูกเรียกเงิน 20,000 บาท ครั้งที่สอง 20,000 บาท ครั้งที่สาม 30,000 บาท และครั้งนี้อีก 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ซึ่งตนเองถือว่าหนักสุด
ด้าน พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รอง ผบช.ภ 3 รรท.ผบก.ภ.จว.จันทบุรี เปิดเผยว่า จากปัญหาเรื่องที่ประชาชนร้องเรียน ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ในคดียาเสพติด เช่นคดี ครอบครัวนางนิด (นามสมมติ) และคดียัดยาเสพติด หรือเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวนั้น ขณะนี้ได้ประสานข้อมูลกับทาง พนักงานสอบสวน สภ.นายายอาม ที่ทำคดีของ นางนิด เหยื่อรายแรก และสั่งการทีมสืบสวนภูธรจังหวัด เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ให้มีความชัดเจน เนื่องจากเป็นคดีที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐชุดเดียวกัน ยืนยันจะให้ความจริงกระจ่าง และให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายต่อไป