หนุ่มรับจ้างขับรถตู้โมโหเสียพนัน แถมยังโดนเพื่อนร่วมวงถากถาง จึงเกิดเหตุชกต่อย ก่อนชักมีดแทงหนึ่งในนั้นเสียชีวิต ส่วนอีกรายบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 01.35 น. วันที่ 25 เม.ย. 2564 พ.ต.ท.สุภัทร เหมจินดา สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ในลานจอดรถตู้รับจ้างและรถโดยสาร ด้านหลังสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ ถนนกำแพงเพชร 7 แขวงและเขตจตุจักร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กฤษฎางค์ จิตตรีพล ผกก.สน.บางซื่อ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนช่วงทางเข้าออกลานจอดรถ พบศพ นายสมศักดิ์ เกียรติกนก อายุ 44 ปี ชาว จ.นครราชสีมา สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสามส่วนสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่อกข้างซ้ายและกลางหน้าท้อง รวม 2 แห่ง ใกล้กันพบ นายไชยา ถาวรเสถียร อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้างขับรถ ยืนรอมอบตัวกับตำรวจอยู่ข้างรถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 30-0675 นครปฐม พร้อมอาวุธมีดปลายแหลม ยาว 6 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม จึงเข้าทำการคุมตัว และตรวจยึดของกลางไปสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบสวน นายไชยา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยผู้ตายที่เคยเห็นเร่ร่อนอยู่ในหมอชิตบ่อยๆ และ พ่อค้าขายซาลาเปาซึ่งเพิ่งรู้จักกันในวันนี้ ได้ชักชวนกันลักลอบเล่นไฮโล และดื่มสุราอยู่ที่ริมถนนไม่ไกลจากจุดจอดรถตู้ โดยระหว่างที่เล่นพนันกันอยู่นั้นตนเล่นเสีย และถูกผู้ตายกับพ่อค้าซาลาเปาพูดจาถากถาง ด้วยความมึนเมาทำให้เกิดชกต่อยกันชุลมุนมาแล้วรอบหนึ่ง จากนั้นตนก็ได้พยายามแยกย้ายออกจากวงเดินกลับมานั่งรองานที่รถ ปรากฏผู้ตายไม่ยอมจบ ยังชวนพ่อค้าซาลาเปาเดินมาเคาะกระจกหาเรื่องอีก โดยทันทีที่ตนเปิดประตูรถลงไปหวังเจรจาให้รู้เรื่องทั้งคู่ก็เข้ามารุมชกต่อยตน ทำให้ต้องหลับหูหลับตาชักมีดที่เก็บไว้ในรถออกมาแทงสวนเพื่อป้องกันตัวไป 2-3 ครั้ง โดยไม่รู้ว่าคมมีดถูกใครบ้าง กระทั่งตั้งสติได้ก็เห็นผู้ตายล้มลงเสียชีวิตคาที่ ขณะที่พ่อค้าซาลาเปาได้รับบาดเจ็บ จึงตัดสินใจรอมอบตัวกับตำรวจ
...
ด้าน พ.ต.อ.กฤษฎางค์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุพบข้อมูลว่า มีโชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดีที่จอดอยู่ในละเเวกดังกล่าว พาตัว พ่อค้าซาลาเปา ซึ่งยังไม่ทราบชื่อ มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่หน้าท้อง 1 แห่ง ไปส่ง รพ.ภูมิพล หลังจากนี้จะให้ฝ่ายสืบสวนติดตามไปอายัดตัวไว้สอบปากคำหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วน นายไชยา ผู้ต้องหารายนี้นั้นเบื้องต้นให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเอาไว้ก่อน และยังต้องรอให้แพทย์วินิจฉัยอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้งเพื่อแจ้งข้อหาในส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นจะประชาสัมพันธ์ให้ญาติตามภูมิลำเนาเดินทางมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป.