ญาติรับศพ 4 อาสาสมัครกู้ภัยที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมไฟไหม้ตึกถล่มในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 เคลื่อนไปประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพที่วัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี และวัดศาลาแดง เขตบางแค อย่างสมเกียรติ
จากกรณีเหตุการณ์เพลิงไหม้ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้อาคารทรุดตัวถล่ม จนทำให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเสียชีวิต 5 นาย และบาดเจ็บหลายราย ทุกศพถูกส่งมาที่โรงพยาบาลศิริราชแล้วนั้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 เม.ย.2564 ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช นางทิพา ทันปรีชา และ น.ส.พัตรพิมล ศรีไพร ซึ่งเป็นแม่และภรรยา เดินทางมารับศพนายธนภพ ประไพ หรือ ต้น อายุ 44 ปี รหัสเหนือ 33-00 อปพร.เทศบาลนนทบุรี โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก และมีการเตรียมความพร้อมในการจัดขบวนของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง-กู้ภัยและอาสาสมัคร เพื่อนำร่าง นายธนภพ ไปวัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี อย่างสมเกียรติ โดยขบวนจะเคลื่อนผ่ายถนนอิสภาพไปถนนพรานนก ตัดเข้าถนนพระเทพฯ ต่อด้วยถนนราชพฤกษ์ และถนนนครอินทร์ เข้าวัดทันที
นางทิพา ทันปรีชา แม่ของนายธนภพ เปิดเผยว่า ลูกชายตนเองเป็นคนมีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือสังคมและไม่เคยทอดทิ้งครอบครัว ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมาก ทุกครั้งที่ลูกออกปฏิบัติหน้าที่คอยเตือนว่าให้ดูแลตัวเองมาโดยตลอด แต่ไม่นึกว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นกับลูกของตนเอง
...
น.ส.พัตรพิมล ศรีไพร ภรรยาของนายธนภพ กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ช่วง 04.00 น. มีเจ้าหน้าที่โทรมาปลุก ว่ามีเหตุเพลิงไหม้ สามีจึงรีบลุกออกไปทำหน้าที่ โดยบอกว่าจะกลับมาช่วง 07.00 น. เพราะมีนัดไปทำบุญด้วยกัน แต่สุดท้ายสามีไม่กลับมา จนมีรุ่นน้องโทรมาสอบถามการแต่งกายของนายธนภพ และได้รับการยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือสามีตน เพราะเห็นเลข 46 ตรงหมวกนิรภัย สามีตัวเองเป็นคนรักงานกู้ภัย ปกติสามีจะเป็นคนระวังตัว และมีประสบการณ์การทำงานมา 25 ปี แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดครั้งนี้จึงเป็นแบบนี้ รู้สึกภูมิใจกับหน้าที่การงานของสามี และคำพูดยกย่องของโลกโซเชียลที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตเป็นฮีโร่กับเหตุการณ์นี้ แม้ลึกๆ จะเสียใจก็ตาม หลังจากนี้ครอบครัวจะนำศพนายธนภพ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 1 วัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี สวดพระอภิธรรม วันที่ 4-10 เม.ย.
นายอรุพงษ์ แก้วกัญหา อาสาสมัครบรรเทาเหนือ เปิดเผยว่า ตนเป็นคู่หูของผู้ตาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยปกติตนต้องไปกับพี่ต้นด้วย แต่ว่าเมื่อวานพี่ต้นไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป ตนจึงไม่ทราบ พอตนรู้ข่าวไฟไหม้อาคารถล่มลงมาก็เลยตามไปทีหลัง หลังจากนั้นก็ได้รับแจ้งว่ามีผู้ติดอยู่ในซากอาคาร พอตนเห็นหมวกก็จำได้ในทันทีว่า คนที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารคือคู่หูของตน เสียใจมาก เพราะผู้ตายคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลืออาสาสมัครรุ่นน้องมาตลอด พร้อมเป็นจิตอาสาด้วยใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนถือว่าผู้ตายทำหน้าที่ได้ดีสุดแล้ว
ต่อมาเวลา 14.00 น. ญาติของนายสมัชญา นิลธง หรือ ชล อายุ 48 ปี, นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด หรือ โอ อายุ 38 ปี และ นายอรรถพล ท้วมทอง หรือ ป็อบ อายุ 26 ปี ทางครอบครัวทยอยมารับศพตามลำดับ และศพทั้ง 3 มีขบวนของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง-กู้ภัยและอาสาสมัคร ไปส่งบำเพ็ญกุศลที่วัดศาลาแดง แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. อย่างสมเกียรติ ขณะที่ศพ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน อายุ 35 ปี ทางครอบครัวยังไม่มาติดต่อขอรับศพ
ต่อมาเวลา 15.00 น. ขบวนศพของ นายสมัชญา นิลธง หรือ ชล, นายสุทัศน์ หรือ โอ เปลี่ยนกลัด และ นายอรรถพล หรือ ป็อบ ท้วมทอง เดินทางมาถึงวัดศาลาแดง ศาลาจิตกระโชติ หรือ ศาลา 11 โดยมีรถร่วมขบวนเปิดสัญญาณไซเรนกว่า 200 คัน และช่วงเวลา 17.00 น. มีผู้แทนพระองค์อัญเชิญน้ำหลวงมารดน้ำศพ เป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิตด้วย