ตร.นครพนม เผยศพ "หมวดบอล" พบหัวกระสุนฝัง 1 นัด จากยิง 3 นัด เป็นขนาด 11 มม. ตั้งข้อสังเกตไม่พบปลอกกระสุนตกในที่เกิดเหตุ เชื่อวางแผนลงมือมาดี ตร.ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เร่งสอบปากคำทหารเวรยาม
กรณีคดีมือปืนบุกยิงสังหารโหด ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธ์สวัสดิ์ หรือ หมวดบอล อายุ 34 ปี ตำแหน่งหัวหน้าหมวดดุริยางค์ มณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม ภายในค่ายทหาร ใกล้บ้านพัก เมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับผลการชันสูตรของสถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น พบหัวกระสุนปืน 11 มม. ฝังบริเวณใต้รักแร้ จำนวน 1 หัว จากจุดถูกยิงทั้งหมด 3 นัด บริเวณ ลำคอ 1 นัด และใต้รักแร้ขวาอีก 2 นัด คาดว่ากระสุนอีก 2 นัดทะลุ โดยทางตำรวจยังตั้งข้อสังเกต เนื่องจากไม่พบปลอกกระสุนตกในที่เกิดเหตุ รวมถึงหัวกระสุนอีก 2 นัด ซึ่งมีการนำกองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ นำเครื่องตรวจหาวัตถุลงสแกนค้นหาแล้วหลายรอบ คาดว่าคนร้ายอาจมีการวางแผน และมีการลงมือเป็นทีม และอาจมีการทำลาย เก็บหลักฐานปลอกกระสุน ไปจากที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวน แกะรอยคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด หลังมีการสอบเพื่อนร่วมงานไปแล้วบางส่วน พร้อมเก็บดีเอ็นเอและเขม่าดินปืน ประกอบหาหลักฐานทุกราย รวม 23 นาย
...
ในวันนี้ได้มีการนำนายทหารเวรยามทุกนาย รวมถึงสารวัตรทหารที่ดูแลความปลอดภัย ยามรักษาการณ์ รวม 13 นาย มาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาเบาะแสเส้นทางคนร้ายหลบหนี เนื่องจากกล้องวงจรปิดด้านหน้าหน่วย ไม่พบความเคลื่อนไหวของคนร้าย ส่วนจุดเกิดเหตุเป็นจุดที่มีระบบไฟฟ้าขัดข้อง และกล้องวงจรปิดอยู่ระหว่างการซ่อมแซม เชื่อว่าคนร้ายวางแผนลงมือในจุดที่ไม่มีคน และกล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกหลักฐานได้ พร้อมสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นคนในที่ก่อเหตุ ที่รู้ความเคลื่อนไหวผู้ตายตลอด
ด้าน พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดียิงนายทหาร ในค่ายพระยอด คืบหน้าไปมาก ในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในวันนี้ได้ผลสรุปจากสถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น พบหัวกระสุน จำนวน 1 นัด ฝังในร่างผู้ตาย จากยิงทั้งหมด 3 นัด พบเป็นขนาด 11 มม. และเป็นปืนออโตเมติก ไม่ใช่ปืนลูกโม่ ซึ่งทางตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานปลอกกระสุนเพิ่มเติม เนื่องจากตรวจสอบหลักฐานหลายครั้ง ไม่พบปลอกกระสุนและหัวกระสุน ในที่เกิดเหตุ
ผู้การนครพนม กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนพยานแวดล้อมทุกคน รวมถึงสรุปพยานหลักฐานทุกด้าน ประกอบผลการชันสูตรของสถาบันนิติเวช มั่นใจว่าจะเชื่อมโยงจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน ส่วนประเด็นการฆาตกรรม ยังไม่ตัดทิ้งทุกประเด็น ทั้งปมชู้สาว ขัดแย้งการทำงาน รวมถึงสันนิษฐานว่า คนร้ายอาจจะมีการวางแผนทำงานเป็นทีมมากกว่า 1 คน อยู่ระหว่างการเร่งรัดคดีให้ชัดเจนมากที่สุด.