ศปอส.ตร.จับแก๊งฉ้อโกงหลอกนักลงทุนธุรกิจ เอส คลับ (S CLUB) ได้ผู้ต้องหา 3 ราย โดยมีการชักชวนนักลงทุนให้ร่วมลงทุนบริษัทพาคนไปเล่นกาสิโน อ้างให้ผลตอบแทนสูง แต่สุดท้ายเชิดเงินหนีไป


เมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ผอ.ศปอส.ตร.) พล.ต.ท.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบช.สทส.พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จตร.พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม./หน.ชป.1 ศปอส.ตร, พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผกก.3 บก.สส.สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ชุดที่ 1 ศปอส.ตร. จับกุมกลุ่มกระบวนการฉ้อโกงหลอกลวงผู้เสียหายลงทุนธุรกิจ เอส คลับ (S CLUB) จากการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและรับมอบตัว

คดีแรกจับกุมตัว นายนนทพัทธ์ สมบุญ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 14/2564 ลง 19 ม.ค. 2564 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยการโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลอื่นทั่วไป โดยการเผยแพร่ข่าวด้วยวิธีการอื่นใด” ได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถ.สุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา  

คดีที่ 2 จับกุมตัว นายเด่นธนากร พชรปัญโญภาส อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 15/2564 ลง 19 ม.ค. 2564 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยการโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลอื่นทั่วไปโดยการเผยแพร่ข่าวด้วยวิธีการอื่นใด” ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 9/209 หมู่ที่ 1 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

คดีที่ 3 รับมอบตัว นายภาณิธิ จันทรโกเมธ อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 14/2564 ลง 19 ม.ค. 2564 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยการโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลอื่นทั่วไปโดยการเผยแพร่ข่าวด้วยวิธีการอื่นใด” ที่ สภ.แก่งคอย ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

...



พฤติการณ์ คือ กลุ่มผู้ต้องหาได้มีชักชวนประชาชนให้เข้าร่วมสัมมนา และได้หลอกให้ร่วมลงทุนกับ บริษัท S CLUB ซึ่งเป็นบริษัทที่พาลูกค้าไปเล่นกาสิโนทั่วโลก มีรายได้จากการปันผลส่วนแบ่งจากค่าตอบแทนที่ได้รับจากกาสิโนทุกรอบการลงทุนจะแบ่งเป็นแพ็กเกจ โดยเริ่มตั้งแต่ 21,000-5,000,000 บาท ซึ่งจะนำเงินมาปันผลให้กับนักลงทุนเดือนละ 10.5 เปอร์เซ็นต์ และนักลงทุนยังมีรายได้จากการชักชวนให้ผู้อื่นมาร่วมลงทุน โดยจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ เช่น ค่า Commission จากการแนะนำ โดยหากสามารถชักชวนให้มีผู้มาลงทุนในแพ็กเกจที่มีมูลค่าสูงขึ้นจะได้รับผลตอบแทนสูงขึ้นในอัตรา 5-15% ค่าบริหารทีม 8-10% การหลอกล่อสมาชิกโดยการการจัดโปรโมชั่น เช่น แจกทองคำ รถยนต์ สิทธิท่องเที่ยวในและต่างประเทศ

ในช่วงแรกจะมีการจ่ายผลตอบแทนจริง แต่ภายหลังจะบ่ายเบี่ยงและหลบหนีไป "มีผู้เสียหายที่เป็นสมาชิกกว่า 400 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคและสืบสวน ศปอส.ตร.ชุดที่ 1 ร่วมกับ สภ.แก่งคอย ภ.จว.สระบุรี สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสระบุรี เพื่อจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวข้างต้นดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป"

ทั้งนี้ การกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหา เป็นความผิดมูลฐาน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งทางศูนย์ฯจะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีในความผิดอาญาฐานฟอกเงิน โดยฐานศูนย์ฯได้ดำเนินการประสานกับทาง ปปง.เพื่อ ตรวจสอบเส้นทางการเงินในการตรวจยึดทรัพย์สินมาคืนให้กับกลุ่มผู้เสียหายต่อไป.