คืบหน้ายิงสาวขายดอกไม้ที่เลยดับ ล่าสุด น้องชายเข้าพบ ตร.ภูหลวง ให้ปากคำเชื่อพี่สาวขัดแย้งเรื่องที่ดินกับญาติ 2 คน โดยเรื่องนี้อาจมีคนมีสีเข้ามาเอี่ยว ขณะที่ อดีตสามี และลูกชายมาให้ปากคำด้วย
กรณีเหตุยิงกันตายเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.พ.64) ที่กระท่อมขายดอกไม้ บริเวณบ้านเลขที่ 174 ต.เลยวังไสย์ อ.ภูหลวง จ.เลย พบศพผู้ตาย ชื่อนางสาวปารีณา อยู่สถิตวงศ์ อายุ 46 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่หน้าอก 1 นัดฝังใน และที่ประตูกระท่อมพบรอยกระสุนปืนเป็นรู 4 รู ทะลุออกหลังกระท่อม และริมถนนห่างจากกระท่อม 10 เมตร พบกุญแจรถกระบะตกอยู่ ห่างออกไป 3 เมตร ที่ตุ่มน้ำพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่ ขณะที่ตำรวจ สภ.ภูหลวง คาดว่ามือปืนยิงจากริมถนน จนผู้ตายหนีตายวิ่งเข้าไปในบ้านและทำกุญแจรถกระบะและมือถือตก จนมานอนเสียชีวิตที่กระท่อม โดยมีนายสุริยา ชูริบัตร อายุ 48 ปี พี่ชายผู้ตาย ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เป็นผู้พบศพ และตกเป็นผู้ต้องสงสัย จนท.นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ภูหลวง และตรวจเขม่าปืน

เมื่อช่วงเช้า วันที่ 4 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า พบว่าตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจได้สอบปากคำได้นำตัวนายสุริยา ชูริบัตร อายุ 48 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมนานหลายชั่วโมง โดยกักไว้เป็นพยาน และให้นอนที่บ้านพักของ ผกก.สภ.ภูหลวง เนื่องจากพยานและครอบครัวกลัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย หลังเมื่อวาน (3 ก.พ.) ลูกสาวพยานได้เห็นรถกระบะโตโยต้าวีโก้ 4 ประตู สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ติดสติกเกอร์คล้ายลักษณะของคนร้าย ที่เคยก่อเหตุทำร้ายผู้ตายกับพ่อเมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 63 ที่ผ่านมา ขับวนเวียนผ่านหน้า สภ.ภูหลวง หลายรอบ ทางตำรวจ สภ.ภูหลวง ได้นำพยานและครอบครัวไปส่งท่าอากาศยาน จ.เลย เพื่อไปกรุงเทพฯ
...

ขณะเดียวกัน มีนายบันลือศักดิ์ สถิตวงศ์ อายุ 42 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต และน้องชายของพยาน ได้เดินทางมาจาก จ.เพชรบุรี เข้าให้ปากคำ ตร.สภ.ภูหลวง เพิ่มเติมคดีที่พี่สาวถูกยิงตาย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาผู้ตายมีความขัดแย้งกับญาติ 2 คน เรื่องเงิน ที่ดินตรงนี้ เมื่อปี 2560 ซึ่งเคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งมานาน แต่เชื่อว่าญาติทั้ง 2 คน ไม่น่าจะก่อเหตุยิงผู้ตาย คาดว่าคดีนี้เป็นบุคคลที่ 3 คนมีสี เอี่ยวเรื่องที่ดินแน่นอน เพราะก่อนที่น้องสาวจะถูกยิงตายได้มีการพูดคุยกันโดยน้องสาวบอกว่า มีชาย 4 คน ไม่ทราบว่าเป็นใครขับรถกระบะไม่ทราบรุ่นสี มาตอนหัวค่ำมาดูลาดเลา และขับรถออกไป จนมาเมื่อหัวค่ำวันที่ 2 ก.พ.64 น้องสาวมาถูกยิงตาย

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา อดีตสามีผู้ตาย พร้อมด้วยลูกชายอายุกว่า 20 ปี เดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี ถึง สภ.ภูหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สวมเสื้อคลุม ใส่แว่นปิดใบหน้า พาขึ้นไปห้องสอบสวนชั้น 2 ของ สภ.ภูหลวง โดยอดีตสามีไม่ให้สัมภาษณ์ ไม่อยากเป็นข่าว คาดว่าจะใช้เวลาในการสอบสวนนานประมาณ 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะไปที่โรงพยาบาลเลย เพื่อรับศพผู้ตายกลับบ้านเกิดที่ จ.ชุมพร.