ตำรวจ สน.ยานนาวา คุมตัว 2 การ์ดวีโว่ ผู้ต้องหาจากเหตุชุลมุนหลังการชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา ส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อฝากขังตั้งแต่ 2-13 ก.พ. เพราะยังต้องสอบสวนพยานไม่หมด ไร้คนมาประกันตัว


ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ วันที่ 2 ก.พ.64 พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ได้นำตัวนายเอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี และนายเกียรติศักดิ์ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจากกรณีเกิดเหตุชุลมุนกลางถนนสาทร หลังกลุ่มการ์ดวีโว่ร่วมชุมนุมต้านการรัฐประหารในประเทศเมียนมา ที่หน้าสถานทูตเมียนมาในประเทศไทย จนมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 14 นาย

คำร้องบรรยายว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. สืบเนื่องจากประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร ต่อมาเวลา 14.45 นของวันเดียวกัน ประชาชนชาวเมียนมาที่อยู่ในประเทศไทยเกิดความไม่พอใจจึงได้ออกมารวมตัวกันที่หน้าสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร ต่อมาได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 50-60 คน ได้มาชุมนุมเรียกร้อง และต่อต้านการรัฐประหารในประเทศเมียนมา ทำการปราศรัยอยู่ที่บริเวณหน้าสถานทูตเมียนมา เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้าไปทำการดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ชุมนุม และบริเวณใกล้เคียง

ต่อมา ผกก.สน.ยานนาวา ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ นายวิชพรรษ ศรีกสิพันธ์ุ ผู้ถูกจับที่ 1(แยกส่งศาลแขวงกรุงเทพใต้) นายเอ และนายเกียรติศักดิ์ รวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมคนอื่นให้เลิกตามเวลาที่กำหนด ปรากฏว่า ผู้ต้องหากับกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่าฝืน ไม่ยอมเลิกการชุมนุมในเวลาที่กำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจึงได้ทำการกระชับพื้นที่ผลักดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุม กระทั่งเวลา 17.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกระชับพื้นที่กลุ่มผู้ชุมนุม นายปัณณพัทธ์ และนายเกียรติศักดิ์ ได้ร่วมกันขว้างปาก้อนอิฐ ก้อนหิน ประทัดลูกบอล ควันและพลุสีเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน

...

หลังจากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 30 คน รวมทั้งนายเอ และนายเกียรติศักดิ์ ยังได้เข้าร่วมใช้กำลังกับตำรวจที่ทำการปฏิบัติหน้าที่ด้วยการขว้างปาขวดน้ำ กรวยยาง หิน ก้อนอิฐใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน และยังใช้ท่อนเหล็กทุบตีแผงโล่ควบคุมฝูงชนจนได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นมีการใช้ท่อนเหล็ก ดิ้ว ตี และใช้แผงเหล็กทุ่มใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน การกระทำดังกล่าว เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้รับบาดเจ็บแก่กายจำนวน 14 คน จึงทำการจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1 ถึง 3 และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ให้ดำเนินคดี โดยพนักงานสอบสวนได้แยกดำเนินคดี นายวิชพรรษ ศรีกสิพันธ์ุ ไปที่ศาลแขวงฯ

โดยกล่าวหาว่า “มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายในบ้านเมืองโดยผู้กระทำผิดคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ, ร่วมกันต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีหรือใช้อาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9 (2)

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นคงต้องสอบพยานอีก 5 ปากจึงขอฝากขัง 12 วันตั้งแต่ 2 ถึง 13 ก.พ. โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุว่า หากมีการยื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องหาพนักงานสอบสวนขอค้านการประกัน เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งหากให้ประกันตัวเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะหลบหนี ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ 

ต่อมาเมื่อเวลา 15.20 น. ทนายได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลได้พิจารณาแล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างรอดำเนินคดี โดยตีราคาประกัน คนละ 50,000 บาท.