เก้า เกริกพล ขึ้นศาลสอบพยานปากแรก คดีฟ้อง "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" และต้นสังกัด ปมไม่แบ่งส่วนแบ่งรายได้จาก MV เลิกคุยทั้งอำเภอ ยันให้คู่กรณีลบคลิป ด้านทนายของฝั่งคู่กรณีแจ้งไม่ประสงค์เจรจา
ที่ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง วันที่ 9 พ.ย.63 ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.716/2563 ที่นายเกริกพล หรือเก้า เพชรรัตน์ ยื่นฟ้อง น.ส.รัชนก สุวรรณเกตุ หรือเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น และบริษัท ได้หมดถ้าสดชื่น จำกัด จำเลยที่ 1-2 เรื่องความผิดต่อ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 สืบเนื่องจากปี 62 มีการนำเพลงดัง "เลิกคุยทั้งอำเภอ" ไปออกเผยแพร่ต่อสาธารณะโดยไม่แบ่งส่วนแบ่งตามที่ตกลง ทั้งที่มียอดวิวถึง 350 ล้านวิว อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ จึงเรียกค่าสินไหม 3 ล้านบาท ทั้งนี้ โจทก์ได้เบิกความยืนยันตามคำฟ้อง
ภายหลังการเบิกความ น.ส.พัณณ์ชิตา วงศ์ศักดิ์ภวิกา ทนายความของนายเกริกพล เปิดเผยว่า วันนี้นำพยานเข้าเบิกความ 3 ปาก แต่สามารถเบิกความเสร็จเพียงปากเดียว ซึ่งหลักฐานที่ส่งให้ศาลเป็นไปตามที่ชี้แจงข้อเท็จจริงกับสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ เพราะการฟ้องในครั้งนี้ต้องการให้ศาลเห็นความเป็นธรรมของนักร้องที่สร้างผลงานและมีรายได้ เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจตัดสินว่าใครถูกหรือผิด สุดท้ายศาลมีคำพิพากษาอย่างไร ก็เคารพดุลพินิจของศาล ทั้งนี้ยังยืนยันขอให้คู่กรณีลบคลิป ส่วนเรื่องฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายค่อยว่ากันอีกที ขณะนี้ยังไม่ได้คิด สำหรับพยานอีก 2 ปาก ศาลนัดไต่สวนวันที่ 25 ม.ค.64 เวลา 09.00 น.
...
เมื่อถามว่า ยังเปิดช่องให้มีการเจรจาหรือไม่ น.ส.พัณณ์ชิตา กล่าวว่า หากมีการเจรจาก็ยินดี แต่วันนี้ทางทนายคู่กรณีแจ้งต่อศาลว่าไม่ประสงค์ที่จะเจรจา เราก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องใช้สิทธิ์ตามกระบวนการของศาล
ด้านนายเกริกพล กล่าวว่า ช่วงเกิดปัญหาแรกๆ คู่กรณีได้ส่งข้อความทักมาปกติ ไม่ได้เป็นการเจรจาต่อรอง ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ติดต่อกันอีก ตนก็ตั้งใจทำงานไปตามปกติ ตอนนี้มีงานคอนเสิร์ตเข้ามาบ้าง และก็มีผลงานเพลงที่ร้องเองปล่อยในยูทูบ ชื่อเพลงยิ่งลืมยิ่งจำ ทั้งนี้หากต้องเจอกันหรือร่วมงานกับคู่กรณีก็สามารถทำงานร่วมกันได้ เพราะวงการนี้ไม่กว้าง ส่วนเรื่องคดีปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่าศาลจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า หากคู่กรณีเสนอจ่ายเงินจะเปลี่ยนใจหรือไม่ เก้า เกริกพล กล่าวว่า ตนคิดว่าอยู่ที่น้ำใจมากกว่า ตอนนี้ตนไม่อยากได้เงินแล้ว อยากขอให้ลบคลิป หากลบคลิปไปเรื่องก็จบ แต่คนอื่นอาจมองว่าเราเรื่องเยอะ.