รมว.ยุติธรรม มอบนโยบายกรมราชทัณฑ์ จี้ ผบ.เรือนจำ ดูแลคุณภาพชีวิตผู้ต้องขัง ห้ามตายด้วยการไม่ใส่ใจ ตั้งเป้าเน้นๆลดความแออัดคุก-สร้างทักษะอาชีพก่อนปล่อยตัว คืนคนดีมีคุณภาพสู่สังคม ขอ ขรก.ทุกคนตั้งใจทำงาน "สมศักดิ์" ยันมีวิจารณญาณพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกคน
เมื่อวันที่ 1 ต.ค.63 ที่กรมราชทัณฑ์ มีการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติราชการ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วย นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายสามารถ เจนชัยจิตรวานิชย์ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม และผู้บัญชาการเรือนจำและทัณฑสถาน 143 แห่งจากทั่วประเทศร่วมงาน
โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเคยมามอบนโยบายไปแล้วเมื่อปีก่อน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นที่น่าประทับใจ แต่อาจจะมีข่าวคราวที่ไม่ดีบ้าง อาจจะเป็นการปล่อยข่าวทำลายกันของคู่แข่ง เหมือนทางการเมืองที่มีคูแข่งทางการเมืองปล่อยข่าวทำลายกัน ในสังคมของกรมราชทัณฑ์ก็มี ตนมีวิจารณญานเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง หากเราเป็นผู้บริหารเป็นรัฐมนตรีแล้วหูเบาบ้านเมืองก็วุ่นวาย ตนพร้อมที่จะรับฟังทุกคน เพราะการเป็นนักฟังที่ดีจะเอาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ หากเราคิดว่าสิ่งที่เราทำอยู่เป็นเรื่องที่ถูกต้อง มีเหตุมีผล เราคุยกันได้ทุกเรื่อง ถึงแม้จะเป็นเรื่องใหญ่ให้ตนต้องแก้กฎหมายให้ ตนก็จะทำ หรือเป็นเรื่องเล็กๆยิ่งสบาย การทำงานที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่ายหรือยาก แต่เป็นเรื่องของการแก้ปัญหา ผู้บริหารทุกท่านต้องมีวิจารณญาณ อะไรที่ควรทำหรือเหมาะสมแค่ไหน ตนอยากให้ระมัดระวัง ในบางครั้งหลายๆเรื่องรุ่นพี่อาจจะแนะนำรุ่นน้อง ตนขอฝากผู้มีประสบการณ์มากก็ช่วยแนะนำกัน เพราะบางครั้งข่าวที่ออกไปข้างนอกบางเรื่องจริง บางเรื่องไม่จริง ตนไม่อยากให้มีอะไรมารบกวนการทำงานของเรา
...
"ผมขอตามเรื่องเก่าที่เคยให้นโยบายไว้ คือ เรื่องผู้ต้องขังล้นเรือนจำ ผมให้ทำการบ้านมา ตอนนี้เรารับผู้ต้องขังได้เท่าไร ที่เราตั้งเป้าไว้ 3 แสนคนทำได้หรือไม่ หากเราทำได้ครบ ในส่วนที่ล้นเราจะเอาไปไว้ไหน ตอนนี้เรารองรับได้แล้ว 2.9 แสนคน แต่ยังมีผู้ต้องขังอยู่ 3.4 แสนคน ตรงนี้เป็นหน้าที่ของกรมต้องคิดว่าจะทำอย่างไร หรือ ผบ.หวงนักโทษ ไม่อยากให้เขาไปอยู่ในที่ไม่ล้นหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริงทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ทุกอย่างต้องมีเหตุมีผล ในปีนี้ผู้ต้องขังต้องไม่แออัด หรือหากจะแออัดก็เป็นเพียงชั่วคราว รอการโอนย้าย ผมเชื่อว่าเราทำได้" นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จะต้องมีบัญชีหรือรู้ว่าผู้ต้องขังที่อยู่มาแล้ว 2 ใน 3 ในเรือนจำมีเท่าไร เพราะเขาได้สิทธิในการพักโทษ ตนไม่ทราบว่านักโทษมีสิทธิทำเรื่องขอพักโทษหรือไม่ และผู้กระทำผิดซ้ำเราไม่มีการให้เขาพักโทษก่อนเวลาเลย อาจจะต้องมีการปรับอย่างไรได้หรือไม่ และการปล่อยตัวผู้ต้องขังหลังพ้นโทษ การเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย เหมือนการจะปล่อยเสือเข้าป่าจะต้องมีการปรับตัวให้หากินเองได้บ้างแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือกรณีนักโทษแบบ นายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง หากปล่อยไปเลยก็กลับไปทำผิดอีก ตนอยากให้ทุกท่านช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง วันนี้เรามีกำไล EM และมีศูนย์ JSOC ที่สามารถติดตามได้ และให้สังคมช่วยติดตาม แต่ต้องมีวิธีอื่นเพื่อให้เขาอยู่ในสังคมได้ด้วย เช่น การฝึกอบรมอาชีพ เพราะผู้ต้องขังมีเวลาอยู่ในเรือนจำนาน เราสามารถอบรมได้
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า เรามีแนวคิดสร้างนิคมอุตสาหกรรม แต่พวกท่านต้องช่วยกันคิดว่า จะมีอาชีพใดที่เป็นที่ต้องการบ้าง ยิ่งมีการส่งเสริมเรื่องภาษาต่างอังกฤษ เราจะสามารถส่งออกแรงงานไปยังต่างประเทศซึ่งได้เงินเดือนเยอะกว่า 2 เท่า รวมถึงการทำบัญชีครัวเรือน หากได้วิชาพื้นฐานอย่างคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ เขาจะสามารถต่อยอดไปทำงานอื่นๆได้ นี่คือการเครียมความพร้อมก่อนปล่อย สิ่งต่างๆเหล่านี้หากท่านทั้งหลายตั้งใจ มีข้อมูลดีๆ เชื่อว่าเราจะสามารถพัฒนาศักยภาพของกรมได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการป้องกันโควิด-19 ตนต้องขอชื่นชม ผบ.ทุกท่านที่ควบคุมโรคได้ดีมาก
จากนั้นเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทั้งนี้มี ผบ.เรือนจำ ได้สะท้อนถึงปัญหากรณีนักโทษหลบหนี หากตามตัวนักโทษไม่ได้ภายใน 48 ชั่วโมง ผบ.เรือนจำนั้น จะถูกย้าย ซึ่งเป็นนโยบายที่คิดว่าไม่เหมาะสมอยากให้แก้ไข นายสมศักดิ์ ตอบว่า "ได้ เพราะนักโทษที่หลบหนีจะมีโทษที่สูงอยู่แล้ว ตนอยากให้เน้นเรื่องการเสียชีวิตของนักโทษในเรือนจำมากกว่า หากสูงเกินปกติจะถือว่า ผบ.เรือนจำ นั้นมีความผิดที่ร้ายแรง และตนขอให้ทุกท่านทำงานอย่างตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นหน่วยงานที่ประชาชนเข้าถึงและพึ่งได้ ตนเชื่อว่าทุกท่านทำได้"
...
นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงเรื่องอาหารสำหรับนักโทษในเรือนจำ ซึ่ง นายสมศักดิ์ ระบุว่า การตรวจสอบเรื่องคุณภาพอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญจะหย่อนยานไม่ได้ แม้ว่าจะได้งบประมาณน้อยกว่าหน่วยงานอื่น แต่ต้องบริหารให้ดี ดูให้ดี และดูให้ครบถ้วน ตนไม่ได้มาสอนท่าน แต่เรามาแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ทุกอย่างต้องเดินไปข้างหน้าอย่าปล่อยให้งานหละหลวม ทุกอย่างต้องมีเหตุผลเราต้องตอบคำถามได้