ตำรวจบ้านไร่คุมตัวพี่ชายโหด ฆ่าตัดคอน้องแท้ๆ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านกะเหรี่ยงและญาติๆ ที่มามุงดู พร้อมให้โอกาสได้สั่งลากับคนในครอบครัว ก่อนจะคุมตัวไปฝากขังต่อศาล จ.อุทัยธานี
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.63 พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านไร่ จ.อุทัยธานี พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัว นายอนุชา กระแหน่ คนร้ายที่ก่อเหตุใช้ปืนลูกซองยิง นายอนุวัฒน์ กระแหน่ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ก่อนใช้มีดพรานป่าตัดศีรษะน้องชายจนขาด เหตุเกิดที่กลางไร่ในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านอีมาดอีทราย ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ก่อนหลบหนีไปซ่อนตัวป่าบริเวณภูเขาในพื้นที่
...
พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร ผกก.สภ.บ้านไร่ และ พ.ต.ท.พฤษ ฉายวัฒนะ รอง ผกก.สืบสวน ภจ.ว.อุทัยธานี พร้อมกำลัง นำตัวนายอนุชาไปยังที่เกิดเหตุ ให้เจ้าหน้าที่เดินเท้าขึ้นไปนำเอาของกลางที่หน้าผาบนภูเขาที่นายอนุชานำไปซ่อนไว้ ระยะทาง 1 กิโลเมตร เป็นจุดแรกนำทางโดย นายอ้วน คลองวะ กำนันตำบลแก่นมะกรูด พบอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ไม่มีทะเบียน มีดปลายแหลม 1 เล่ม ข้าวสาร 1 กระสอบเล็ก เสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนไว้ จากนั้นได้คุมตัวนายอนุชาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่ 2 เป็นจุดที่บริเวณหน้าห้างพักของนายอนุชาในไร่ที่เกิดเหตุ
ผู้ต้องหาให้การว่า ในวันเกิดเหตุตนยืนอยู่ภายในบ้านพัก ส่วนผู้ตายยืนอยู่ริมฝั่งคลองตรงข้ามกัน ระยะประมาณ 30 เมตร ตนได้ใช้อาวุธปืนประทับบ่ายิงผู้เสียชีวิตตรงจุดบริเวณหน้าห้าง หลังจากผู้ตายล้มลง ตนได้นำมีดปลายแหลมที่วางอยู่ในครัว ไปจัดการตัดศีรษะผู้ตายจนขาด และได้นำศีรษะของผู้ตายไปโยนทิ้งในสระน้ำใกล้กับที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นได้หลบหนีเข้าไปซ่อนตัวบนภูเขาดังกล่าว รับว่ากระทำการขณะมีอาการมึนเมา และรอยแค้นที่มีต่อผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายเคยเตะตนจนตกลงมาจากบ้านได้รับบาดเจ็บเย็บถึง 70 เข็ม และตามลำตัวมีแต่บาดแผล
...
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ น.ส.การดา พี่สาวของผู้ต้องหา พร้อมน้องสาวอีกคนหนึ่งเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องหา ต่างได้สวมกอดและร้องไห้เสียใจ โดยนายอนุชาได้สั่งให้พี่สาว น.ส.การดา และน้อง ช่วยดูแลแม่ให้ดี ซึ่งแม่ได้ป่วยเป็นโรคหัวใจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายอนุชาไปยังบ้านของนายอนุชา ที่บอกว่าถูกน้องชายเตะตกบ้านจนบาดเจ็บสาหัส พบว่าบ้านสูงประมาณ 3 เมตร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพ และได้ควบคุมตัวผู้ต้องหากลับมายังสถานีตำรวจภูธรบ้านไร่ เพื่อควบคุมตัวและจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลของจังหวัดอุทัยธานีต่อไป
ระหว่างที่ทำแผนนั้นได้มีชาวบ้านพี่น้องกะเหรี่ยง และญาติๆ ของผู้ต้องมาดูการทำแผนจำนวนมาก แต่ไม่เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพี่น้อง และญาติๆ กัน ในการนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน พกพาอาวุธปืนในเมืองหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต.