ตำรวจและป.ป.ส.จับแก๊งขนยาไอซ์ยึดได้ 860 กก. มูลค่ากว่า 600 ล้าน รองผบ.ตร.ชี้ทะลักจากฝั่งเพื่อนบ้าน ด้าน 2 รายสารภาพได้ค่าจ้างคนละ 1 แสน เผยขบวนการค้ายาเสพติดเริ่มไฮเทค มีรถนำทาง และติดระบบจีพีเอส
วานนี้ (1 ส.ค.63) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวณิชย์ ผบช.ภ.4 นายปราโมทย์ ธัญพืช รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. นายอดุล ประยูรสิทธิ์ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 4, นายบัญชา โทสมัย ผอ.สปป. และพล.ต.สวราชย์ แสงผล ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร่วมกันแถลงการจับกุม นายกิตติทัต อุดพ้วย อายุ 39 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.หนองคู อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ และนายชัยณรงค์ ทองไทย อายุ 42 ปี ชาวบ้านหมู่ 15 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางเป็นยาไอซ์จำนวน 22 กระสอบ น้ำหนัก 860 กิโลกรัม มูลค่า 600 ล้านบาท รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 2 ฒฉ 4934 กรุงเทพมหานคร ด้านหลังต่อเติมตู้ใส่สินค้า ซึ่งเป็นรถใช้ลำเลียงยาไอซ์ และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผน 4642 อุดรธานี ซึ่งเป็นรถนำทาง โดยตำรวจ ป.ป.ส.สามารถจับกุมได้บริเวณสี่แยกบ้านจั่น ถนนมิตรภาพ (อุดรธานี -ขอนแก่น) ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี
...
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย และ ตร.สืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนเงิน ทะเบียน 2 ฒฉ 4934 กรุงเทพมหานคร ลำเลียงยาไอซ์มาจาก จ.บึงกาฬ เข้ามาทาง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ผ่าน อ.บ้านดุง และ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งมีรถนำทางแจ้งว่าตรงไหนมีด่าน โดยหัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดเริ่มมีความไฮเทคมาก เพราะติดจีพีเอสรถที่ใช้ลำเลียงยาเสพติด เพื่อจะได้รู้ว่าถึงไหนแล้ว หรือจอดอยู่ที่ใด
จึงสนธิกำลังดักซุ่มบริเวณสี่แยกหนองเม็ก ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พบรถตรงตามที่ได้รับรายงาน จึงเข้าสกัดและจับกุมรถขนยาไอซ์ และรถดูลาดเลาล่วงหน้าที่สี่แยกบ้านจั่น ต.หนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพ ว่าได้รับจ้างขนยาไอซ์จาก จ.บึงกาฬ ไปส่งที่กรุงเทพฯ โดยค่าจ้างขับรถลำเลียงยาไอซ์คนละ 100,000 บาท และเพิ่งทำเป็นครั้งแรก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขยายผลไปถึงหัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ต่อไป
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวถึงสาเหตุที่ยาเสพติดเข้ามาทางภาคอีสานจำนวนมากขนาดนี้ว่า กลุ่มลำเลียงยาพวกนี้ หากมีช่องทางในการลำเลียงยาเสพติด กลุ่มนี้ก็จะพยายามใช้ช่องว่างในการลำเลียง ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันตก โดยช่วงโควิด-19 ระบาดมีประกาศเคอร์ฟิวและล็อกดาวน์คุมเข้มการเข้า-ออกพื้นที่ กลุ่มผู้ค้าเหล่านี้ไม่มีการขนยาเสพติด แต่เมื่อยกเลิกเคอร์ฟิวปลดล็อกดาวน์ กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดพวกนี้จึงฉวยโอกาส และใช้โอกาสนี้ในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังประเทศ เพื่อเป็นการระบายของให้ทัน
...
รอง ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ในส่วนของยาไอซ์หากมีจำนวนปริมาณมากขนาดนี้ แน่นอนว่าจะมีการลำเลียงส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 อย่างแน่นอน โดยคดีนี้เป็นการจับกุมที่มากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่าที่ได้ดำเนินการมา และจากการสืบสวนพบอีกว่าเป็นคดีที่ใกล้เคียงกับที่จังหวัดตาก และอำเภอสุไหงโก-ลก ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้.