ผบ.ตร.มีคำสั่งให้สำรองราชการ "วิระชัย" กรณีกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ปล่อยคลิปสนทนากับบิ๊กแป๊ะ ส่งผลให้ รองผบ.ตร. จะว่างลงอีก 1 ตำแหน่ง และผู้ช่วย ผบ.ตร.เข้าชิงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ได้ถึง 3 คน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติวันที่ 29 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีคำสั่ง ตร.ที่ 387/2563 ลงวันที่ 29 ก.ค.ให้ข้าราชการตำรวจสำรองราชการ โดยระบุตามคำสั่ง ตร.ที่ 383/2563 ลงวันที่ 24 ก.ค.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ซึ่งถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยมีพฤติการณ์และการกระทำเข้าลักษณะมีเจตนาเปิดเผยความลับของทางราชการ และฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งว่าด้วยการให้ข่าวสัมภาษณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของ ตร.อย่างร้ายแรง

ประกอบกับ บก.ป. ได้รับคำร้องทุกข์ในกรณีกล่าวโทษว่า มีการกระทำอันเป็นการทำผิดต่อรัฐ มีมูลเข้าข่ายตามความผิด พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 74 และตามประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัติย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 21 เรื่องการห้ามดักฟังทางโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารอื่นใดนั้น

เนื่องจากกรณีดังกล่าว เป็นเหตุในการสั่งสำรองราชการได้ ตามนัยข้อ 3(1) แห่งกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจประจำ ตร.หรือส่วนราชการใด หรือสำรองราชการ ในส่วนราชการใด พ.ศ.2548 ดังนั้นเพื่อประโยชน์แห่งความเป็นธรรมในการดำเนินการทางวินัยและอาญา เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการในภาพรวมของ ตร.อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 61 (2) แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 จึงให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.สำรองราชการ ตร. (อัตราเลขที่ สรส.1) ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า การสำรองราชการเป็นมาตรการตามกฎ ก.ตร.ส่วนมากการสำรองราชการส่วนใหญ่จะเป็นไปในแนวทางโน้มลบ เช่น ถูกดำเนินคดีอาญา, ถูกกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง หากเข้าเงื่อนไขก็สั่งให้สำรองราชการได้ โดยคำสั่งสำรองราชการจะขาดจากตำแหน่งที่เดิมที่ครองอยู่ สามารถแต่งตั้งคนอื่นทดแทนได้ เพราะเห็นว่าหากอยู่ไปก็จะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้ คำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย สำรองราชการ เท่ากับว่าตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.จะว่างลงอีก 1 ตำแหน่งในเดือน ต.ค.นี้ ดังนั้นจะทำให้ตำแหน่ง พล.ต.อ.ว่าง 3 ตำแหน่ง ส่งผลให้ผู้ช่วย ผบ.ตร.เข้าชิงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ได้ถึง 3 คน

...