ศาลลงโทษจำคุก “กานต์ เมียเสกโลโซ” 5 ปี ปรับ 2 แสน หลังหมิ่นประมาท “อีฟ แม็กซิม” อดีตแฟนสาวสามี หาว่าเป็นโสเภณี อีเหลือม ทำเสียชื่อเสียง
ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ก.ค. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ น.ส.อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ หรืออีฟ แม็กซิม อายุ 30 ปี อดีตรองมิสแม็กซิม ไทยแลนด์ ปี 2008 เป็นโจทก์ฟ้องนางวิภากร หรือกานต์ ศุขพิมาย อายุ 47 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา โดยวันนี้นางวิภากรเดินทางมาพร้อมนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ สามี ร็อกเกอร์ชื่อดัง ขณะที่น.ส.อภิสร์ญาโจทก์ไม่ได้เดินทางมาศาล
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวทำนองว่า ให้ร้ายโจทก์ที่มาคบหากับ เสก สามี อันเป็นข้อความอื่นซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้ผู้ที่อ่านข้อความเข้าใจว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ดูถูก เกลียดชัง เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร จึงนำคดีมาฟ้อง ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วคดีมีมูลประทับรับฟ้อง ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์แล้ว ปัญหาวินิจฉัยจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ โจทก์อ้างตนเองเป็นพยาน เบิกความเกี่ยวกับกรณีที่จำเลยโพสต์ข้อความว่าอีเหลือม และอื่นๆ ซึ่งข่าวได้นำเสนอ จำเลยได้ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก และได้รับเชิญไปออกรายการทีวี ทำให้ประชาชนและสื่อมวลชน เข้าใจว่าอีเหลือมหมายถึงโจทก์ ข้อความที่โพสต์มีเนื้อหาเกี่ยวกับความขัดแย้งของโจทก์กับจำเลย ส่วนที่จำเลยต่อสู้คดีว่าเฟซบุ๊กตนมีผู้ดูแลหลายคนนั้น เป็นคำกล่าวอ้างลอยๆ เชื่อว่าจำเลยเผยแพร่ภาพและข้อความด้วยตนเอง
...
เห็นว่า ข้อความมีเนื้อหาทำนองเดียวกัน เกี่ยวกับการคบหาอดีตสามี ไม่มีผู้ขัดแย้งคนอื่น และมีบุคคลมาตอบแสดงความคิดเห็นกล่าวถึงโจทก์ แสดงว่าประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจและทราบดีว่าจำเลยกล่าวถึงโจทก์ ส่วนที่จำเลยอ้างว่าไม่ได้ระบุชื่อนั้น การที่จำเลยไม่ระบุชื่อโดยตรง แต่ทำให้บุคคลภายนอกเข้าใจได้ ถือว่าใส่ความโจทก์แล้ว มีเจตนาพาดพิงโจทก์
สำหรับข้อความตามฟ้องเป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่ จำเลยโพสต์ถึงโจทก์เป็นการดูถูกเหยียดหยาม ทำให้บุคคลเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนเลวทรามต่ำช้า ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถือเป็นความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามฟ้อง
พิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิด ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ประกอบ 326 หลายกรรมต่างกันเป็นกระทงความผิดไป จำคุกจำเลยกระทงละ 1 ปีปรับ 40,000 บาท รวม 5 กระทง เป็นจำคุก 5 ปี ปรับ 200,000 บาท ความผิดจำเลยเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องครอบครัว จำเลยมีความกดดันหลังเลิกกับสามี และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นควรให้รอลงอาญาโทษจำคุก เป็นเวลา 2 ปี และลบข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ ส่วนที่โจทก์ขอให้จำเลยขอขมานั้น ไม่มีกฎหมายสั่งบังคับให้ขอขมาได้.