"ทนายกรณ์" ให้ปากคำกองปราบ ปัดเอี่ยวแผนชิงตัว "บรรยิน" เผยไม่รู้สึกกังวลเข้าพบตำรวจ อุบรายละเอียดประกันตัว "โจ" อ้างเป็นข้อมูลสำคัญทางคดีความ ด้าน ตร.เตรียมสอบพยานในคุกเพิ่ม
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 มิ.ย.63 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความเข้าพบ พ.ต.อ.สัณห์เพ็ชร หนูทอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. พ.ต.ท.ภิรมย์ เมืองไสย รอง ผกก.1 บก.ป. ตามหมายเรียกเพื่อให้ปากคำ ในฐานะพยานคดีการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาคดี "ร่วมกันอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้" จากเรือนจำ หลัง นายสุธน ทองศิริ หรือโจ ลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ให้การพาดพิงว่า พ.ต.ท.บรรยิน ได้ให้ นายกรณ์ มาดำเนินการเรื่องประกันตัว นายสุธน ออกจากเรือนจำ เพื่อให้ออกไปก่อเหตุดังกล่าว
เมื่อมาถึงกองปราบปราม นายกรณ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอติดตามความคืบหน้าคดีว่า ไม่รู้สึกกังวลใจใดๆ กับการเข้าพบพนักงานสอบสวนวันนี้ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการชิงตัวดังกล่าว ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าตนได้รับประสานจาก พ.ต.ท.บรรยิน เพื่อให้มาช่วยประกันตัวนายสุธนนั้น รายละเอียดในส่วนนี้ไม่ขอเปิดเผย จะขอชี้แจงให้กับพนักงานสอบสวนเพียงเท่านั้น เนื่องจากเป็นข้อมูลสำคัญทางคดี
ต่อมาเวลา 14.00 น. ภายหลังการเข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน บก.ป.เสร็จสิ้น โดยใช้เวลาในการสอบปากคำนานร่วม 5 ชั่วโมงนั้น นายกรณ์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้ง โดยกล่าวว่า วันนี้มาให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏและเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ทั้งนี้ยังยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามไม่รู้สึกแปลกใจที่พนักงานสอบสวนจะเกิดความสงสัย จนต้องออกหมายเรียกมาสอบปากคำ ส่วนประเด็นการประกันตัวนายสุธน หรือโจนั้น ยืนยันว่าไม่ได้รับการว่าจ้างหรือประสานจาก พ.ต.ท.บรรยิน เพราะรับงานนี้มาจากเพื่อนทนายที่รู้จักกันอีกคนหนึ่ง อีกทั้งเงินค่าประกันตัวเป็นทางญาติของนายสุธนเป็นคนจ่าย
...
"ตนไม่รู้จัก พ.ต.ท.บรรยิน และ พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด และเพิ่งมารู้จักจากข่าวคดีดังกล่าวที่มีการเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ นี้เอง" นายกรณ์ กล่าว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำ นายกรณ์ ให้การว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน แต่อย่างใด ส่วนการที่เป็นทนายความดำเนินการเรื่องประกันตัวนายสุธนออกมานั้น ในส่วนนี้เป็นการรับงานว่าจ้างจากญาตินายสุธน หรือโจ ด้วยเงินประมาณ 2 หมื่นบาท ผ่านการแนะนำของเพื่อนทนายอีกคนหนึ่ง ส่วนการที่เลือกรับงานนี้เป็นเพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่มีใครจ้างงานประกอบกับญาตินายสุธนเอง ไม่สามารถเข้าเยี่ยมหรือประกันตัวได้ด้วยตัวเอง จึงตกลงรับงานดังกล่าว โดยไม่ทราบว่ามีการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน แต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับกำหนดการเข้าปากคำในฐานะพยานคดีดังกล่าวของ นายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ ลูกชาย พ.ต.ท.บรรยิน นั้น เดิมพนักงานสอบสวนได้นัดหมายเข้าพบในวันที่ 1 ก.ค. แต่ นายวรภัทร์ ได้ขอเลื่อนเป็นวันที่ 2 ก.ค. แทน โดยอ้างว่าติดธุระบางอย่าง ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนยังได้เตรียมที่จะเข้าไปสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติมในเรือนจำอีกประมาณ 2-3 ปาก เพื่อเตรียมพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อ พ.ต.ท.บรรยิน ในเร็วๆนี้.