สาวประเภทสองชาว จ.ศรีสะเกษ ผิดหวังในความรัก คว้า .32 ไทยประดิษฐ์ ยิงขมับพลทหาร ก่อนผูกคอตายตาม ทิ้งจดหมายลาตาย เสียใจแม่ของฝ่ายชายกีดกันจะให้แยกทาง แต่เรารักกันมากและขอตายไปด้วยกัน หากชาติหน้ามีจริงขอเกิดเป็นสามีภรรยาอยู่กันจนแก่เฒ่า
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 27 มิ.ย.2563 ร.ต.อ.เริงศักดิ์ เพชรเขียว รอง (สว.) สอบสวน สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุฆ่าตัวตาย 2 ศพ ในหอพักไม่มีชื่อภายในซอย พระราม 2 ที่ 94 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.อำนาจ หาญชนะ ผกก.สน.แสมดำ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 2 ชั้น แบ่งเป็นห้องเช่าให้คนงานและพนักงานบริษัทในละแวกดังกล่าว พักรวม 40 ห้อง จากการตรวจสอบบนห้องพักชั้นที่ 2 เลขที่ 65/30 พบศพ พลทหารเรืองศักดิ์ ลอดคำทุย อายุ 23 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ ปัจจุบันเป็นทหารกองประจำการสังกัด มทบ.12 สภาพศพนอนหงายเปลือยกายมีผ้าห่มสีชมพูคลุมร่างอยู่บนที่นอน มีบาดแผลถูกกระสุนปืนขนาด .32 เข้าที่ขมับขวาทะลุด้านซ้าย 1 นัด เนื้อตัวเริ่มดำคล้ำส่งกลิ่นคละคลุ้ง ซึ่งแพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 18-20 ชั่วโมง
...
อีกศพเป็นสาวประเภท 2 และเป็นแฟนของ พลทหารเรืองศักดิ์ ทราบชื่อคือ นายนิศามณี บุรินทร์ อายุ 23 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ ปัจจุบันเป็นพนักงานขายประจำห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบางปะกอก สภาพศพสวมเสื้อยกทรงสีชมพู นุ่งกางเกงในบิกินีสีเทา ใช้ผ้าคลุมไหล่สีชมพูผูกคอตัวเองกับขื่อห้องน้ำภายในห้องพัก แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-10 ชั่วโมง ตรวจสอบสภาพห้องพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้และรื้อค้นทรัพย์สิน มีเพียงอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .32 ซึ่งถูกยิงไปแล้ววางอยู่ข้างที่นอน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.วิลาวัลย์ บุรินทร์ อายุ 20 ปี น้องสาว นายนิศามณี ผู้ตาย ซึ่งพบศพคนแรก ให้การว่า พี่ตนคบหาดูใจกับ พลทหารเรืองศักดิ์ มานานเกือบ 2 ปี ระยะหลังทั้งคู่มีปัญหาระหองระแหงทะเลาะกันบ่อย เนื่องจากทางบ้านของฝ่ายชายกีดกันและฝ่ายชายพยายามบอกเลิกกับพี่ตน ทำให้พี่ตนเกิดความเครียด กระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา พี่ตนก็ไปหาที่ห้องพักซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ก่อนยื่นจดหมายลาตายและภาพถ่ายหน้าตรงของทั้งพี่ตน และพลทหารเรืองศักดิ์ ระบุให้ใช้เป็นภาพตั้งหน้าศพมาฝากตนไว้ ทีแรกตนไม่ได้เอะใจอะไรก็รับไว้และพูดปลอบใจจนมีท่าทีดีขึ้น
“กระทั่งตั้งแต่กลางดึกวันที่ 26 มิ.ย.จนถึงรุ่งเช้าวันนี้ไม่สามารถติดต่อพี่ตนได้ จึงเดินทางมาดูพบว่าห้องล็อกลูกบิดจากด้านใน ต้องถอดบานเกล็ดหน้าต่างล้วงมือเข้าไปเปิดปลดล็อก เห็นภาพทั้งคู่กลายเป็นศพไปแล้ว โดยเชื่อว่าพี่ตนน่าจะนำอาวุธปืนซึ่งยังไม่ทราบเป็นของใครยิงใส่ พลทหารเรืองศักดิ์ก่อน จากนั้นน่าจะทำใจอยู่นานก่อนตัดสินใจใช้ผ้าคลุมไหล่ผูกคอฆ่าตัวเองตายตาม จากนั้นจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจมาตรวจสอบพร้อมมอบหลักฐานเป็นจดหมายลาตายและภาพถ่ายของผู้ตายทั้งคู่ให้กับพนักงานสอบสวน” น.ส.วิลาวัลย์ กล่าว
ขณะที่ ร.ต.อ.เริงศักดิ์ เพชรเขียว รอง (สว.) สอบสวน สน.แสมดำ เจ้าของคดีได้ตรวจสอบจดหมายลาตายและภาพถ่ายของผู้ตายทั้งคู่ โดยจดหมายเขียนด้วยลายมือ นายนิศามณี ระบุในทำนองว่า เสียใจที่แม่ของฝ่ายชายกีดกันจะให้แยกทาง แต่เรารักกันมากและขอตายไปด้วยกัน หากชาติหน้ามีจริงขอเกิดเป็นสามีภรรยาอยู่กันจนแก่เฒ่า อย่าให้มีสิ่งใดแยกเราออกจากกัน นอกจากนั้นยังสั่งเสียให้นำภาพถ่ายที่เลือกเอาไว้ทำเป็นรูปตั้งหน้าศพ ซึ่งหลังจากนี้จะมอบศพให้นิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าชันสูตรก่อนให้ญาติเดินทางมารับนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดต่อไป
...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบไทม์ไลน์บนเฟซบุ๊กของผู้ตายทั้งคู่ ทราบว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของ พลทหารเรืองศักดิ์ และ นายนิศามณี ก็ได้โพสต์แชร์รูปคู่ที่ถ่ายกันเมื่อวันเกิดฝ่ายชายปีที่แล้วมาลงอีกครั้งโดยระบุถ้อยคำ “ไม่ว่าอย่างไรก็จะรักเหมือนเดิม” ซึ่งก่อนหน้านี้ นายนิศามณี ก็เคยโพสต์ตัดพ้อน้อยเนื้อต่ำใจในเรื่องความรักบ้างเป็นบางครั้ง ขณะที่เฟซบุ๊กของพลทหารเรืองศักดิ์ ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากไม่ได้ตั้งค่าให้เห็นโพสต์ในไทม์ไลน์เป็นสาธารณะ.