ไบค์ฟู้ด “ลาล่ามูฟ” อ่วมถูกเพื่อนร่วมอาชีพสังกัดอื่นรุมยำ อัตรา 30 ต่อ 5 ที่ลานจอดปากซอยรัชดาภิเษก 14/1 ล่าสุด ผกก.สน.บุคคโล เผยตามจับกลุ่มผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 6 ราย ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมรับปากจะไม่ให้เกิดเรื่องในลักษณะเช่นนี้อีก

จากกรณี นายพนมกร หรือมิว วงศ์สนิท อายุ 22 ปี และนายสมัชชา หรือบิว จูปราง อายุ 31 ปี ไบค์ฟู้ด สังกัดลาล่ามูฟ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.อนุวัฒน์ สูบไธสง สว.(สอบสวน) สน.บุคคโล เพื่อดำเนินให้คดีกับกลุ่มพนักงานไบค์ฟู้ดจากหลายสังกัดประมาณ 30 คน ที่ยกพวกพร้อมอาวุธครบมือเข้ามาทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้เสียหายรวม 5 คน จนได้รับอาการบาดเจ็บและมีทรัพย์สินเสียหาย เหตุเกิดบริเวณจุดจอดรถจักรยานยนต์ปากซอยรัชดาภิเษก 14/1 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 พ.ค.ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 พ.ค.2563 ที่ สน.บุคคโล พ.ต.อ.สายชล ปัญจชัย ผกก.สน.บุคคโค กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุตนได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนและพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ทำงานร่วมกันโดยแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน โดยทางฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่พิสูจน์ทราบหาตัวผู้กระทำความผิดจนสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 6 ราย เป็นชาย 5 ราย และหญิง 1 ราย ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ส่วนทางพนักงานสอบสวนเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น” ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าเข้าข่ายถึงขั้นอาการสาหัสหรือไม่ หากตรวจพบว่าเข้าข่ายจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกครั้ง

...

พ.ต.อ.สายชล กล่าวต่อว่า สำหรับมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้ เกิดการเข้าใจผิดเรื่องสถานที่จอดรถสำหรับรอลูกค้าสั่งสินค้า ซึ่งทางกลุ่มผู้เสียหายเสียค่าจอดรถกับเจ้าของสถานที่ แต่ฝ่ายคู่กรณีมาจอดและสื่อสารไม่เข้าใจกันจนเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกัน เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพเสียหาย โดยหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาพบกัน ซึ่งทางฝ่ายผู้ก่อเหตุยินยอมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเรื่องทำร้ายร่างกายให้กับฝ่ายผู้บาดเจ็บ รวมถึงค่าทรัพย์สินที่เสียหาย ส่วนทางด้านคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้าน พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ สิทธิโชคธรรม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บุคคโล เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุประมาณ 5-6 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเป็นการสื่อสารที่ไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ทางคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายได้ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถทำงานร่วมกันในสถานที่เดียวกันได้เนื่องจากประกอบอาชีพเดียวกัน พร้อมทั้งรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องในลักษณะเช่นนี้อีก.