“บิ๊กเบิ้ม-พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย” สรุปภาพรวมสถานการณ์หลัง นายกฯ ลุงตู่ ตัดสินใจประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ จับดำเนินคดีทั้งหมด 308 ราย จงใจฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ทั้งรวมตัวจับกลุ่มตั้งวงสุรา หรือสรวลเสเฮฮาในที่สาธารณะ
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.63 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์หลังจากมีการประกาศข้อกำหนดเคอร์ฟิว ว่า ภาพรวมการปฏิบัติในคืนวันที่ 4 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข และอาสาสมัครต่างๆ มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และชุดสายตรวจร่วม ทั่วประเทศ รวมจำนวน 836 จุด ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 18,830 คน มีการตรวจคันบุคคลทั้งหมด 19,312 คน ตรวจค้นยานพาหนะทั้งหมด 14,344 คัน ในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่พบว่าเป็นผู้ที่มีเหตุผลและความจำเป็น คือ เป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการขนส่งสินค้าอุปโภค บริโภค ขนส่งสินค้าทางการเกษตร การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืน และผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านการแพทย์
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า โดยปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอะลุ่มอล่วยเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว แต่ยังคงมีประชาชนบางส่วนที่จงใจฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น ดื่มสุราและขับขี่ยานพาหนะทั้งรถยนต์รถจักรยานยนต์ออกมาตามท้องถนนโดยไม่มีจุดหมาย รวมตัวจับกลุ่มตั้งวงสุรา หรือสรวลเสเฮฮาในที่สาธารณะ ลักลอบเล่นการพนัน หรือ ออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ เช่น อ้างว่าไปเยี่ยมเพื่อน หรืออ้างว่าไม่รู้ว่ามีเคอร์ฟิว โดยกลุ่มนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมดำเนินคดีทั้งหมด 308 ราย มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ได้โปรดปฏิบัติตามข้อกำหนด และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เพื่อควบคุม ป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคให้ได้โดยเร็ว.
...