“อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ยืนยันจะเข้าพบ พงส.ทุ่งสองห้อง หลังถูกดีเอสไอแจ้งความหมิ่นประมาท กรณีการตายของ “ธวัชชัย อนุกูล” อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจังหวัดพังงา ผูกคอดับในห้องขัง
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.63 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.63) จะเดินทางเข้ารับทราบขอกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอแจ้งดำเนินคดีกับตนเองในข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีโพสต์ข้อความและเผยแพร่คลิปโจมตีการทำงานของพนักงานสอบสวนดีเอสไอในคดีการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจังหวัดพังงาที่เสียชีวิตขณะถูกควบคุมอยู่ในห้องควบคุมระหว่างนำตัวมาสอบสวน ในคดีออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบในจังหวัดพังงา ระบุว่าสิ่งที่ตัวเองโพสต์ไปนั้นมีหลักฐาน คือ คำสั่งของศาลที่ระบุว่าเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นมีผู้ทำให้เสียชีวิต แต่ดีเอสไอไม่ดำเนินการกับเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เรื่องดังกล่าวเงียบหายไป
นายอัจฉริยะ เปิดเผยต่อไปว่า หากดีเอสไอมีเจตนาที่ดีควรที่จะเรียกตนไปให้ข้อมูล ไม่ใช่มาแจ้งความจับดำเนินคดีกับตนที่นำข้อเท็จจริงมาเปิดเผยแต่ควรมาร่วมมือกัน เพื่อหาความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ ในพรุ่งนี้จะแจ้งความดำเนินคดีกลับดีเอสไอในข้อหาแจ้งความเท็จทำให้ตนเองได้รับความเสียหายด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชน ระบุว่า ในวันอังคารที่ 10 มีนาคม 2563 เวลา 10.00 น. พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่กองกฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางไปร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา
...
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจพบว่ามีการนำคลิปวิดีโอที่ระบุข้อความว่าเป็นของ “ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม” เผยแพร่บนระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นการพูดของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่มีเนื้อหาหลายส่วนพาดพิงการปฏิบัติงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษในลักษณะที่เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงและทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับความเสียหาย
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมอบหมายให้กองกฎหมายพิจารณาในรายละเอียด และเห็นว่าเข้าข่ายเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา พร้อมมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่กองกฎหมายเป็นผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนท้องที่ที่พบเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง สำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับแผนการปฏิบัติราชการประจำปี ผลการปฏิบัติงานในคดีสำคัญ การติดตามผลการดำเนินคดีที่ตนเองเกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าตรวจดูข้อมูลที่ถูกต้องได้ที่เว็บไซต์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th